เสือหลวงพ่อปาน41-หุบปากวัดกลางเขี้ยวซีก(แชมป์+ดารา)

วิทยา(เสือปิดตา) 09-4554-4454 vitaya@outlook.com /// เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย หรือวัดมงคลโคธาวาส คือ สุดยอดจักพรรดิ์แห่งเครื่องรางอันดับ 1 ของประเทศในชุดเบญจภาคีเครื่องราง "หลวงพ่อปาน" หรือ "พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ" เป็นชาวบางบ่อ ตำบลบางเหี้ย จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2368 มรณภาพเมื่อ วันที่ 29 สิงหาคม 2453 เสือของท่านดีทางมหาอำนาจ และคงกระพันยอดเยี่ยม หรือจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ค้าขายของก็ดี ในปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จไปที่ตำบลบางเหี้ย เพื่อที่จะทำพิธีเปิดประตูน้ำ ปรากฏเรื่องที่หลวงพ่อปานได้เอาชิ้นหมูเสียบกับไม้ แกว่งล่อเอาเสือที่ตกลงน้ำต่อหน้าพระพักตร์ หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าหลวง มีรับสั่งถามว่า "ที่แจกเครื่องรางเป็นรูปเสือมีความหมายอย่างไร ?" หลวงพ่อปานทูลตอบว่า "ได้ไปรุกขมูลธุดงค์ในป่า พบเสือใหญ่หลายครั้ง ได้สังเกตดูเห็นว่า "เสือ" เป็นสัตว์ปราดเปรียว ฉลาด ว่องไว เฉียบขาด มีตบะ และอำนาจ สามารถที่จะใช้ตาสะกดสัตว์อื่นให้อยู่ในอำนาจได้ คนทั่วไปเรียกผู้ร้ายใจฉกรรจ์ว่า "ไอ้เสือ" ก็คือเอาความเก่งกาจของเสือมานั่นเอง การที่ทำเครื่องรางรูปเสือ มิใช่จะสนับสนุนให้คนกลายเป็น "อ้ายเสือ" เพียงแต่ต้องการเอาลักษณะของเสือจริงในป่า ที่ปราดเปรียว ว่องไว เฉลียวฉลาด เฉียบขาดมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น" พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชทานผ้าไตร ผ้ากราบ และได้พระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ" พระราชนิพนธ์เรื่อง "เสด็จประพาส มณฑลปราจิณ" ได้เล่าถึงหลวงพ่อปานความตอนหนึ่งว่า "คุณวิเศษที่คนเลื่อมใสคือ ให้ลงตะกรุด ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ ที่นิยมกันมากคือ เขี้ยวเสือแกะเป็นรูปเสือ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ฝีมือหยาบๆ …. เวลาแย่งชิงก็ขึ้นไปถึง 3 บาท ว่า 6 บาทก็มี ได้รูปเสือนั้นแล้วจึงไปให้พระครูปลุกเสก" การพิจารณาเสือหลวงพ่อปานต้องดูที่ รูปทรง ศิลป์ ฟอร์มการแกะ ความเก่าตามธรรมชาติของเขี้ยว แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ "รอยจาร" หรือลายมือของหลวงพ่อ ส่วนมากรอยจารใต้ฐานจะมี ยันต์ "อุ" อยู่ด้านบน ยันต์ "กอหญ้า" อยู่ซ้ายขวา และ ยันต์ "ฤ ฤา" ด้านล่าง (หากเป็นเขี้ยวซีกโดยปกติจะมีแค่ยันต์กอหญ้า ถ้าพิเศษขึ้นมาจะมีจาร ฤ ฤา) บริเวณตามลำตัวเสือจะเป็นตัวเลขไทย และยันต์อุ การจดจำลายมือนั้นสำคัญมาก จากนั้นค่อยพิจารณาถึงศิลป์การแกะของช่าง หากจะแบ่งเสือหลวงพ่อปานแบบลึกๆนั้น สามารถแบ่งได้เป็น 6 อย่างคือ 1)อ้าปากจารปกติ 2)หุบปากจารปกติ 3)ศิลป์วัดกลางหรือศิลป์ชาวบ้าน 4)อ้าปากจารขน 5)หุบปากจารขน และ6)ศิลป์พิเศษ หรือเสือตาเม็ด หรือเสือตาเนื้อ ส่วนลักษณะพิเศษเพิ่มเติมของเสือเช่น หางดาบ หางกริช หางเอส หางกริช มีไข่ (แกะแบบมีลูกอัณฑะ) ฯลฯ ++++++++ เสือพ่อปานตัวนี้เป็นเสือหุบปาก สภาพเนื้อแห้งสวยสมบรูณ์ จารชัดทุกตัว สภาพที่ว่าไม่ได้ใช้เลยก็ว่าได้ แกะจากเขี้ยวซีก ( "เขี้ยวซีก" คือการแกะเสือจากเขี้ยวครึ่งเขี้ยว เพราะฉะนั้นหากพูดว่าเขี้ยวซีกดูใต้ฐานเสือ จะไม่มีรู ซึ่งรูนี้คือรูประสาทฟัน) การแกะเสือตัวนี้ถือว่าพิเศษมากๆหางยาวถึงหัวเป็นหางกริชแล้วมาเลี้ยวเข้าปาก หน้าตาถือว่าอยู่ในศิลป์วัดกลางฝีมือชาวบ้านครับ ความสุดยอดของเสือตัวนี้คือใต้ฐานมียันต์ครบแบบเสือเต็มเขี้ยว คือมี อุ กอหญ้า และ พิเศษมีจาร "ฤ ฤา" เขี้ยวซีกที่เคยเห็นว่ามีจารครบคือมีจารอุด้วยนั้นที่เคยเห็นก็มีอีกตัวเดียวเท่านั้น เสือตัวนี้ยังเป็นดาราในหนังสือเสือพ่อปาน(จัดทำโดยอ๊อดเสือ)เล่มมาตรฐานของวงการซึ่งเสือทุกตัวในเล่มนี้วงการยอมรับ หน้า322 สุดยอดเสือเขี้ยวซีกครับมันส์มาก ~~โชว์อย่างเดียวครับ~~