ต้องตรวจสอบพระ และ ตกลงเงื่อนไขการรับประกัน ให้เรียบร้อย
หากไม่เคยติดต่อ หรือรู้จักผู้ให้เช่ามาก่อน
แนะนำให้นัดดูองค์จริง
กุมารทองเพชร องค์ดารา หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี ขนาดบูชา จ.สุรินทร์
กุมารทองเพชร องค์ดารา หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี ขนาดบูชา จ.สุรินทร์ ปี2541
สร้างน้อยหายาก พุทธคุณรอบด้าน บูชาแล้วค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีแต่รวยๆเฮงๆ
องค์นี้เป็นองค์ดาราในหนังสือเครื่องรางยอดนิยมหน้า236ครับ
ประวัติ
กุมารทอง สายเทพ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญตำนานการสร้างกุมารทอง หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน(วัดเพชรบุรี) จ.สุรินทร์ โดยปกติทั่วไปแล้ววิธี หรือตำราการสร้างกุมารทองนั้นมักจะมีตำรับ ตำราบอกถึงวิธีการสร้างกุมารทอง ประกอบกับเวทย์มนต์คาถาที่ใช้กำกับปลุกเสกตลอดทั้งวิธีการดูแลรักษาบูชาเป็นแบบฉบับให้ศึกษากันต่อๆ แล้วแต่ละสำนักอาจารย์ ส่วนวิธีหรือตำราการสร้างกุมารของหลวงปู่นั้น ก็ได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ทั้งเขตไทยและประเทศกัมพูชาหลายสำนักอาจารย์เช่นกัน ในแต่ละอาจารย์ก็มีวิธีและเคล็ดลับต่างๆกัน แต่การศึกษาในตำราวิชาก็ดีใช้ได้ผลมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ย่อมขึ้นอยู่กับพลังจิต พลังแข่งกสิณ อภิญญาของแต่ละอาจารย์ว่ามีพลังจิตเข้มขลังเพียงใดส่วนฉบับการสร้างกุมารทองของหลวงปู่นั้น ท่านมิได้ใช้เพียงแค่ตำราอย่างเดียว แต่หลวงปู่ได้วิชาจากครูบาอาจารย์ที่เป็นเทพได้ลงมาสอนวิชาให้จึงเรียกว่าวิชาเทพบันดาล ดังนั้นในการนี้กระผมผู้เขียนจึงขอเรียกเป็นตำนานการสร้างกุมารทองของหลวงปู่เพราะเป็นเรื่องของวิธีการสร้างนอกจากตำรับตำรานั่นเอง
หลวงปู่เล่าว่า ขณะที่ท่านได้ออกธุดงค์วัตร์ หรือถือรุกขมูล คือการอาศัยป่าเป็นที่พักอาศัยปฏิบัติเจริญธรรมภาวนาขณะน้นได้อุปสมบทแล้วสามพรรษาขณะคือรุกขมูลต้นมาถึงเข้าเขตของประเทศกัมพูชา เพื่อจัดหาแหล่งสัปปายะอันเป็นที่สงบร่มเย็นแก่การเพียรภาวนา ณ. ที่นั้นเป็นแหล่งแห่งจอมดินโปร่ง อันดินโปร่งนี้ถือว่าเป็นจอมดินที่มีเทพยดา ฤาษีคุ้มครองดูแลรักษาตลอดทั้งยังเป็นดินอันโอชะของสัตว์ป่าทั้งหลายเช่น ช้าง กวาง เก้ง ฯลฯ อีกยังถือว่าเป็นดินโอสถของสัตว์ทั้งปวงด้วย ขณะที่หลวงปู่ได้เจริญภาวนาอยู่นั้น ได้ปรากฏเห็นกุมารร่างดำจ้ำหม้ำ นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างหน้าด้วยความที่หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีเมตตาต่อเด็ก ทั้งหลายอยู่แล้ว เมื่อยามที่ท่านเห็นเด็กที่ใดก็ตามท่านจะยิ้มพร้อมขออุ้ม จากนั้นก็จะเป่าศรีษะให้แก่เด็กนั้น ในครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อท่านเห็นกุมารดำนั่งอยู่ข้างหน้าเช่นนั้นท่านจึงตรงเข้าอุ้ม แต่ผลปรากฎว่าอุ้มเท่าไรก็อุ้มไม่ขึ้นยกเท่าไรก็ยากไม่ไหว จะผลักดันล้มหน้าหงายหลังก็ไม่โค่น ทันก็เพียงได้แต่นึกสงสัย สักครู่ต่อมาปรากฏว่ากุมารดำนั้นได้เนรมิตร่างสูงใหญ่ นั่งขัดสมาธิหลวงปู่กล่าวว่า “ขณะกุมารนั่งลงธรรมดาแค่นั้น หลวงปู่ยืนยังยืนอยู่ได้แค่เพียงหัวไหล่ของกุมารดำนั้นเอง”
ทำให้เราได้จินตนาการมองเห็นได้ ว่ากุมารนั้นต้องสูงใหญ่มาก หลวงปู่ท่านได้แต่นึกสงสัยว่ากุมารองค์นี้หาได้เป็นกุมารธรรมดาไม่จะต้องเป็นกุมารที่มีบุญญฤทธิ์อิทธิฤทธิ์อย่างมาก จึงได้กระทำการแปลงร่างนิมิตรกายได้ซึ่งต่อมากุมารนั้นได้ย่อกายปกติและได้บอกถึงวิชาและเคล็ดลับของการสร้างกุมารทองแก่ท่าน จนสามารถจดจำได้แม่นแล้วกุมารร่างดำนั้นก็ได้อันตรธานหายไปในพริบตาจึงเป็นการสันนิษฐานได้ว่า เทพที่มาบันดาลวิชาการสร้างกุมารทองแก่หลวงปู่นั้น คงจะทราบด้วยญาณของท่านแล้วว่า ในกาลภายหน้าแล้วพระภิกษุรูปนี้จะต้องได้นำวิชานี้มาช่วยลูกหลานหรือช่วยบ้านเมืองยามคับขันได้จึงได้มาประสิทธิประสาทวิชาการนี้ให้ หลังจากที่หลวงปู่ได้ศึกษาวิชาเทพบันดาลนี้ได้ประมาณสองปี ขณะที่ยังดำรงรุกขมูลอยู่ ณ. ประเทศกัมพูชานั้นได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างเขมรสองฝ่ายคือ เขมรดำฝ่ายรัฐบาล และเขมรแดงฝ่ายตรงข้าม ได้นำกำลังเข้าจู่โจม หน่วยกำลังของทหารรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นเจ้านโรดมสีหนุได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหัวหน้าฝ่ายรัฐบาล ซึ่งได้รู้จักจากทหารและชาวบ้านว่าพระภิกษุหงษ์รูปนี้เป็นผู้ที่เคร่งครัดในการเจริญวิปัสสนาตลอดทั้งเรื่องด้วยสรรพวิชาการต่างๆ ทั้งทางด้านเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมหรือแม้แต่ทางแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี ดังที่กล่าวกันว่ายามหลวงป่าเมตตาแล้วจะเยือกเย็นประดุจน้ำแข็งดีๆยามที่ผู้ใดได้อยู่ใกล้แล้วก็จะมีแต่ความเย็นจิตเย็นใจอบอุ่นอย่างมาก แต่ยามใดที่ท่านเจริญจิตภาวนาในทางคุ้มคลองป้องกันภัยแล้วก็จะแรงเข้มขลังอย่างเอกอุ แม้ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ มืด คมหอกดาบ ปืน ระเบิดก็หาได้ระคายผิวหนังไม่ ดังนั้น เมื่อเจ้าสีหนุได้เช่นนั้น จึงได้มากราบนมัสการหลวงปู่ พร้อมกับขอให้สึกจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ จะขอแต่งตั้งให้เป็นรองนายยกรัฐมนตรี หลวงปู่ได้กล่าวปฏิเสธในการที่รับตำแหน่งตามที่เจ้านโรดมสีหนุนั้นขอร้องพร้อมกับกล่าวว่า “อาตมาสึกมิได้หรอกถ้าสึกแล้ววิชาก็เสื่อมไปจะไม่เป็นผล แต่จะช่วยแผ่เมตตาคุ้มครองกองทัพให้ก็และกัน” เจ้านดรดมสีหนุดีใจมากที่หลวงปู่ได้เมตตาช่วยเหลือหลวงปู่ได้กล่าวสัปยอกว่า” ถ้าช่วยรบชนะแล้วจะให้อะไร” เจ้าสีหนุก็กล่าวตอบรับว่า “ถ้าช่วยรบชนะจะแบ่งเมืองให้ครึ่งหนึ่ง” จากนั้นเจ้านโรดมสีหนุได้กล่าวสัปยอกถามว่า “ถ้าหากช่วยรบแล้วแพ้จะทำอย่างไร” หลวงปู่กล่าวตอบทันทีว่า “ถ้าแพ้ให้เอาตัวไปฆ่าเลย”
กุมารทองเพชร คือกุมารทององค์เล็ก สำหรับพกติดตัว หรือคล้องคอนั้น ถือว่าเป็นกุมารทององค์เล็กรุ่นหนึ่งของหลวงปู่และหลวงปู่ก็กล่าวชมกุมารองค์เล็กนี้ว่า เก่งมากมีบารมีมาก แม้มีศัตรูหมู่ไพรพาลมาก่อกวน ถ้าเราได้ภาวนา “นะเมติฯ” กุมารจะมาคุมร่างและช่วยคุ้มครองทันที ประดุจรัดนิ้วมือดังได้เคยกล่าวมาแล้วว่า “เพราะกุมารทองของหลวงปู่นั้นเป็นญาณบุตรเทพ เวลาไปไหนมาไหน หรือยามใครระลึกนึกถึง จึงสามารถมาช่วยเหลือได้โดยไว ส่วนที่กล่าวว่ากุมารทองเพชร องค์เล็กนี้มีบารมีมาก และมีเจริญด้วยเมตตาโชคลาภสูง เพราะขณะที่หลวงปู่ได้ภาวนาอธิษฐานจิตบรรจุญญาณแห่งกุมารทองเพชรนั้น (หลังจากการปลุกเสกเสร็จ) หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังว่า “ขณะอธิษฐานจิตภาวนานั้นได้บังเกิดนิมิตแปลกเป็นภูเขาทลายลงมา แปล๊กแปลก....ตั้งแต่ภาวนามิเคยเกิดนิมิตดังนี้ ด้วยความสงสัยและอยากรู้จนเหลืออดว่านิมิตรแห่งภูเขาทลายนี้เป็นอย่างไร ดีหรือมิดีอย่างไร? จึงได้กราบนมัสการเรียนถามหลวงปู่ ด้วยประโยคดังกล่าว หลวงปู่ท่านอมยิ้ม พร้อมกับเล่าว่า “นิมิตอย่างนี้ดีบารมีของครูบาอาจารย์ท่านช่วย ให้บังเกิดให้รู้วว่าญาณเทพบุตรนั้นมีบารมีมาก โดยปกติภูเขาจะทลายหรือแตกแยกนั้นยากมาก แต่ท่านแสดงให้พบเช่นนั้นแสดงว่ามีวิชามากหรือเต็มวิชา “นิมิตอย่างนี้ยังไม่เคยเกิดน๊า” พร้อมกับตักหมากจากตลับฉัน พร้อมทังเมตตาเล่าอีกว่า “กุมารทองชุดนี้ ยังมีบารมีทางเมตตา โชคลาภสูงมากสมมติว่าถ้าเรานั่งขายของ คนซื้อเดินเลยไปแล้ว ก็จะต้องหวลกลับมาช่วยซื้อเพื่อเราจะได้กลับบ้านไวๆ สงสารอย่างนี้ดีกว่าเมตตาเฉยๆนะ การเมตตาเฉยๆ นั้นเป็นเพียงแต่ตาเห็น แล้วกระทบใจอยากที่จะช่วยเหลือแต่ยังมิได้ลงมือช่วยเหลือเพราะเพียงเกิดแต่ในใจ ส่วนคำว่า “สงสาร” นั้นหมายเท่ากับคำว่า “กรุณา” ในพรหมวิหารสี่ คือ เห็นแล้วสงสารม๊าก มาก จึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วนทันที ดังตัวอย่างคือการหวลต้องเดินกลับมาช่วยซื้อนี้เป็นคุณสมบัติพิเศษของกุมารทองชุดนี้ จึงชอบที่จะนำพกติดตัวไปมาค้าขายเก่งมาก หรือให้เด็กติดตัวก็จะช่วยคุ้มครองดุจเงาตามตัว กันรถชนรถเฉี่ยวดีสมัยนี้ พ่อแม่มิค่อยมีเวลารับส่งลูกจากโรงเรียนเหมือนสมัยก่อน เพราะทุกคนต่างต้องช่วยกันทำมาหากิน
Cr. อาจารย์ยุทธนันต์
o หากมีบัญชี Facebook สามารถใช้ในการสมัครสมาชิกได้
o กรอกอีเมล/เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ใช้เข้า Facebook
o กด “ตกลง” ก็จะเป็นสมาชิกเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ได้ทันที
o ใส่ชื่ออีเมล และ รหัสผ่าน และ กดตกลง
o เข้าไปที่อีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบอีเมลจาก prapantip@gmail.com เมื่อรับอีเมลแล้วให้กดที่ลิงค์ที่อยู่ในอีเมล เพื่อเข้าระบบ (บางครั้งอีเมล อาจไม่ได้อยู่ที่ Inbox กรุณาตรวจสอบที่ Junk Mail)
o ในครั้งต่อไป สามารถเข้าระบบ โดยกรอกอีเมล และ รหัสผ่าน ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้
ต้อง เห็นรายละเอียดชัดเจน ทุกด้าน ทั้งองค์
ควร ลงรูปทุกด้าน (หน้า หลัง ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง)
ห้าม ลงรูปไม่คมชัด ไม่ละเอียด เบลอ
ห้าม วางพระเครื่อง รวมหลายๆ องค์ ในภาพเดียว
ห้าม ลงรูปพระไม่ซ้ำกันใน 1 ประกาศ
สิ่งสำคัญ: ห้ามลงพระซ้ำกับพระที่เคยลงประกาศไปแล้ว และยังแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซด์
สินค้าที่ห้ามลงประกาศ: ชุดพระในคอ, งานทำบุญ , ข่าวพระเครื่อง, โฆษณาร้านพระ, ใบรับประกันร้านพระ, ข่าวสารพระเครื่อง, งานประกวด หรือ สินค้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากพบว่าลงพระไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามประเภท หรือ ลงสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการลบรายการพระนั้นๆ ออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติมที่ ลงรูปพระเครื่องแบบไหน ที่ทำให้คนเข้าชมเยอะ
- ประเภทพระ (เลือกประเภทพระ 1 รายการ) ดูรายละเอียดประเภทพระ
- ชื่อพระ
- ราคา (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- รายละเอียดพระ
- รูปพระ (ลงรูปพระได้ 1-5 รูป)
- รูปถ่ายบัตรประชาชน+หน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 รูป
- พื้นที่/จังหวัด
- ผู้ขาย (ชื่อ/นามสกุล)
- เบอร์โทรศัพท์ (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- Line id
สถานะ | รายละเอียด |
---|---|
รอตรวจสอบ | อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล |
ไม่ผ่านการตรวจสอบ | เนื่องจาก ภาพไม่ชัด / ข้อมูลไม่ครบ /ผิดเงื่อนไข (เช่น ลงพระซ้ำ) เมื่อไม่ ผ่านการตรวจสอบจะลบประกาศออกทันที หากต้องการแก้ไขหรือเพิ่มเติมให้ลงใหม่เท่านั้น |
กำลังใช้งาน | พระแสดงหน้าเว็บไซด์แล้ว จนถึงวันที่ ..../...../..... |