พระสมเด็จปรกโพธิ์ 9 ใบ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลังยันต์จม สวยแชมป์ มีเกศาผู้มีบุญญาธิการเส้นยาวมาก ชัดเจน หายากมากและล้ำค่าที่สุดในสาย

ราคา / สถานะ :
พระโชว์
ชื่อร้าน นะพุทธคุณ
ประเภทร้าน SHOP
เบอร์โทร 0626596295
Line ID 0626596295
จำนวนผู้ชม 21,211
ดูพระทั้งหมดในร้านค้า
ข้อควรระวัง ในการเช่าพระผ่านเว็ปไซต์

ต้องตรวจสอบพระ และ ตกลงเงื่อนไขการรับประกัน ให้เรียบร้อย

หากไม่เคยติดต่อ หรือรู้จักผู้ให้เช่ามาก่อน
แนะนำให้นัดดูองค์จริง

ทางเวปเป็นสื่อกลาง ไม่มีส่วนในการเช่าพระ
กรุงเทพมหานคร 26 พฤษภาคม 2566 11:33 AM
ชื่อพระ :

พระสมเด็จปรกโพธิ์ 9 ใบ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลังยันต์จม สวยแชมป์ มีเกศาผู้มีบุญญาธิการเส้นยาวมาก ชัดเจน หายากมากและล้ำค่าที่สุดในสาย


รายละเอียดพระ :

พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ อาจารย์ของหลวงพ่อกวยท่านหนึ่งคือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ท่านสร้างพระพิมพ์ปรกโพธิ์ไว้ด้วยเช่นกัน พระพิมพ์นี้มีความหมายดี หลวงพ่อท่านเคยบอกว่า "ปรกโพธิ์ ร่มเย็น อยู่ไหน ไม่มีใครรังเกียจ” เห็นได้ว่า หลวงพ่อท่านสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์ไว้หลายพิมพ์ พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ที่มี ความสำคัญที่สุด เรียกว่าท่านเลือกมอบให้เฉพาะผู้มีบุญวาสนา คือ พระปรกโพธิ์เก้าใบ ด้านหลังมีทั้งเป็นยันต์ครู และแบบหลังแม่พระธรณี สำหรับพิมพ์ด้านหลัง แม่พระธรณีจะหายากกว่า

พระพิมพ์หลังแม่พระธรณีนี้ทราบว่า ท่านจำลองภาพคราว ที่พระพุทธเจ้าผจญพญามาร จึงอัญเชิญแม่พระธรณีขึ้นมาเป็นสักขีพยานในการ บำเพ็ญเพียรของพระองค์ แม่พระธรณีจึงได้บีบน้ำที่พระพุทธเจ้าเคยอุทิศบำเพ็ญเพียร สั่งสมไว้หลายภพชาติออกมาจากมวยผม บังเกิดน้ำจำนวนมากออกมาจากมวยผม แม่พระธรณี น้ำนั้นก็ท่วมเสนามารล้มตายเป็นอันมาก สุดท้ายพญามารพ่ายแพ้ ต่อพุทธานุภาพดังนี้ ในตำราหลวงพ่อท่านมีคาถาสำคัญอยู่บทหนึ่ง คือ คาถาบูชา แม่พระธรณี ในคาถานี้มีทั้งคาถาเชิญแม่พระธรณีมาให้รับรู้ ทั้งคาถาขอให้ท่านช่วย ในสิ่งที่เราปรารถนา คุณวิเศษของพระพิมพ์นี้เป็นอย่างไร เหตุใดสมเด็จปรกโพธิ์หลัง แม่พระธรณีจึงเป็นพระในฝันของใครหลายคน

ในอดีตมีนายตำรวจระดับสารวัตรท่านหนึ่งมีปัญหาชีวิตและหน้าที่การงาน เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมชัดเกิดความทุกข์ใจแก้ไขไม่ตก นายตำรวจท่านนี้เดินทางไป กราบพระรูปหนึ่งในจังหวัดราชบุรี พระรูปนี้ผู้คนร่ำลือว่าดูหมอแม่นมีหูทิพย์ตาทิพย์ สมาธิแก่กล้า เมื่อพบพระอาจารย์นายตำรวจเล่าเรื่องราวของตนให้ท่านฟัง พระอาจารย์นั่งเงียบฟังนายตำรวจเล่าจนจบ ครู่หนึ่งท่านถามนายตำรวจว่ารู้จักหลวงพ่อไหม ทั้งบอกให้ไปหาพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ที่ด้านหลังเป็นรูปแม่พระธรณี นายตำรวจท่านนี้แกไม่รู้จักจึงตอบไปตามตรงว่าไม่รู้จัก ภายหลังท่านสืบหาจนสามารถบูชาพระสมเด็จปรกโพธิ์หลังแม่พระธรณีได้ เรื่องราวของนายตำรวจท่านนี้เคย มีผู้นำมาเผยแพร่ในอดีตเมื่อราว ๒๐ ปีก่อน พระสงฆ์ที่นายตำรวจ ผู้นี้ไปหาท่านมีชื่อว่า หลวงพ่อจรูญ วัดเฉลิมอาสน์ ภายหลังข้าพเจ้าสืบหาจนได้กราบท่าน ทั้งยังโชคดี ได้รับความเมตตาจากท่าน ได้ฟังเรื่องราวมากมายของหลวงพ่อ ทั้งได้รับการไขข้อข้องใจต่างๆ ที่ค้างคาใจจนกระจ่าง

หลวงพ่อจรูญ ตาทิพย์ ท่านอธิบายว่าเพราะเหตุใดท่านจึงให้หาพระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์หลังแม่พระธรณี ท่านกล่าวว่าพระพิมพ์ปรกโพธิ์ของหลวงพ่อเป็นของสร้างยาก #ในแผ่นดินนี้จะมีผู้ที่เสกพระสมเด็จได้ขนาดหลวงพ่อในปัจจุบันนี้และต่อไปอีกร้อยปีก็ไม่มีบังเกิด ประการแรกหลวงพ่อท่านเป็น หน่อธาตุหน่อธรรม ผู้สืบสายธรรมจากสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆัง ดังที่กล่าวไปแล้วในเรื่องความเกี่ยวพันของท่านทั้งสอง ซึ่งหลวงพ่อจรูญท่านสามารถรับรู้ได้ว่าใครที่มาพบท่าน คนใดแขวนพระสมเด็จหรือพระที่มีผงของสมเด็จโตผสมอยู่ท่านจะบอกได้ทันที ใครแขวนพระหลวงพ่อมาแม้นพระอยู่ในเสื้อมิดชิด หรือมาพบท่านครั้งแรก ท่านก็จะทักขึ้นมาทันทีว่า “แขวนพระหลวงพ่อกวยมาด้วยหรือ?” ท่านรู้ได้หมดอย่างน่าอัศจรรย์

หลวงพ่อจรูญท่านกล่าวว่านอกจากมวลสารที่ผสมในพระสมเด็จปรกโพธิ์ ล้วนวิเศษ จากข้อมูลเก่าของอาจารย์สมจิตร กล่าวว่ามีเส้นผมของผู้มีบุญญาธิการสูง เรื่องเส้นผมนี้เขาไม่กล้าเอ่ยว่าเป็นเส้นผมใคร ผู้เขียนทราบมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าพูดเช่นกัน ต่อเมื่อพบหลวงพ่อจรูญท่านพูดถึงเส้นผมนี้ด้วย ทั้งอธิบายว่าเพราะเหตุใด หลวงพ่อจึงนำมาใส่ลงในพระพิมพ์นี้ บอกได้แค่ว่า “ขนลุก” ทั้งการปลุกเสกก็ลึกซึ้งหา ผู้รอบรู้พลิกแพลงเช่นหลวงพ่อก็ยากนัก ท่านอัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์มารับรู้ เชิญแม่พระธรณีมา ประสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ ทั้งอ้างอธิษฐานขออำนาจพระพุทธองค์คราวมีชัยชนะเหนือพญามาร ทั้งบุญบารมีที่ตัวท่านกระทำสั่งสมมาทุกภพชาติ ขอใช้ปกป้องผู้ที่บูชา

พระปรกโพธิ์ให้มีความสุขสวัสดิ์ทุกประการ พระปรกโพธิ์จึงเป็นพระที่เกื้อหนุนชะตา และปกป้องดวงชะตาในช่วงตกต่ำได้ดีมาก พระทุกองค์จะมีเทพเทวดาคอยคุ้มครอง รักษาอยู่ ข้อนี้ท่านว่าห้ามนำพระไปในที่ไม่เหมาะสมเด็ดขาด ใครบูชาพระปรกโพธิ์ แล้วมีความเจริญดีแล้วอย่าเปลี่ยนมือ หรือปล่อยให้เช่าบูชาเพราะชีวิตจะตกลงทันที (เฉพาะองค์ที่บูชาอยู่กับตัว) พระปรกโพธิ์ หลังนักเคยรับรู้มาถึงเรื่องเหล่านี้

คราวหนึ่งมีพี่น้องสองคนนำพระพิมพ์ปรกโพธิ์เดินขึ้นไปขายบนห้างย่าน นนทบุรี สองพี่น้องเกี่ยงเถียงกันเรื่องผลประโยชน์จู่ ๆ พระสมเด็จตกลงหักกลางองค์ เลย สุดท้ายกลับไปเถียงกันต่อที่บ้านพร้อมพระหัก พระปรกโพธิ์ของหลวงพ่อเป็น อย่างนี้เคยรับฟังมาหลายคน บางคนนำพระของท่านเข้าสถานเริงรมย์ พระลั่นเสียง ดังเพี้ยะหักกลางเฉยๆ เป็นรอยร้าวตรงคอก็เคยมี เป็นที่รู้กันดีในหมู่ศิษย์ว่าพระพิมพ์ปรกโพธิ์ หากหักกลางแบบขาดครึ่งแล้วเขาไม่แขวน บางคนเขาว่าเสื่อมแล้วอาคมที่ ท่านเสกประจุไม่อยู่แล้ว แต่แปลกที่มีบางคนหากินฝืดเคืองเคราะห์กรรมถาโถมเจอมรสุมชีวิต นำพระปรกโพธิ์หักกลางไปอธิษฐานทำน้ำมนต์อาบตัว ปรากฏว่าดีขึ้นผิดหู ผิดตาชีวิตพลิกผันผ่านเรื่องร้ายได้ก็หลายราย จึงเป็นเรื่องที่ตอบยากอธิบายลำบาก เรื่องพระหักนี้ ทราบว่าในสมัยหลวงพ่อจรัญ วัดเฉลิมอาสน์ ยังทรงสังขารอยู่ใครทุกข์หนัก ชีวิตย่ำแย่ตกต่ำเคราะห์ซ้ำกรรมซัด บ้านแตกสาแหรกขาดมาขอทางแก้ไขชีวิต ท่านมักให้ไปหาพระสมเด็จปรกโพธิ์ของหลวงพ่อมาบูชา สวดมนต์บูชาทุกเช้า ทำน้ำมนต์ด้วยพระนั้นอาบกิน ท่านกล่าวว่า “ดีกว่ามาให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์เป็น สิบปีร้อยปี ไม่สู้แขวนพระปรกโพธิ์ของหลวงพ่อ ท่านกล่าวอย่างนี้ ทั้งที่ใครๆ ว่าท่านเก่งมีตาทิพย์ท่านยังยอมหลวงพ่อ ท่านเคยกล่าวว่าหากหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ หรือหากท่านได้รู้จักพบจิตหลวงพ่อตั้งแต่กาลก่อน ท่านจะไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ ให้ได้วิชาของหลวงพ่อท่านมาก ทั้งทำได้พิสดารล้ำลึกและแตกฉานทุกแขนง หาผู้เสมอเหมือนท่านได้ยากในแผ่นดิน

คาถาแม่พระธรณี

๑. โพ อะวะ นิ ตะละ

๒. ตัสสา เกส สะโต ยะถาคงคา โลตัง ปะวัตตันติ มาระเสนา ปะติฐฐาตุง อะสันโกนโต ปะลายิงสุ ปะระมิตา นุภาเวนะ มาระเสนะ ปะราชิตา ทิโสที่สัง

ปะลายันติ วิทั้งเสนติ อะเสสะโต ฯ

ผู้บูชาพระสมเด็จปรกโพธิ์ควรสวด คาถาแม่พระธรณี ควบคู่ด้วยจะเจริญสุข ทำสิ่งใดเจริญรุ่งเรืองชนะอุปสรรค ศัตรูหมู่ร้ายภัยพาลต้องพ่ายแพ้สิ้น คาถาท่อนที่ เป็นคาถาเชิญแม่พระธรณีควรสวดเชิญ ๙ คาบ สวดเชิญแล้วอธิษฐานสิ่งที่ปรารถนา ให้แม่พระธรณีช่วย เสร็จแล้วสวดคาถาท่อนที่ ๒ เป็นคาถาขอให้ท่านช่วย สวด ๙ คาบ หรือตามกำลังวันก็ได้ ทำสม่ำเสมอทุกวันไม่ขาดหากสิ่งที่ปรารถนาไม่เกินกว่าวาสนา ย่อมบังเกิดผลสำเร็จได้สมดังตั้งใจหมาย คาถานี้มีอยู่ในตำราพิชัยสงครามห้ามสวด ขณะถูกจองจำ หรืออยู่ในชื่อคาโซ่ตรวนจะเป็นเสนียดแก่โซ่ตรวนนั้น

คาถาแม่พระธรณีบีบมวยผม

ตัสสาเกสตะโต ทัตตะวาลังคาโสตังปะวัดตะติ มาระเสนะปะติตถาตุงอะ สะโกนโตปะราย ปาระมิตานุภาเวนะ มาระเสนาปะราชิตา นิกขันตุทะกะวาห์สะกิ่งดาเกเสหิตาวะ เททิโสทิสาปะรายันติ วิทั้งเสนตอะเสสะโต โพธารินิกอุทะกัง เอหิมะมะ ฯ

คาถาแม่พระธรณีบีบมวยผม ใช้ทำน้ำมนต์ประกอบพระปรกโพธิ์หลังแม่พระ ธรณียิ่งดี ทำน้ำมนต์อธิษฐานใช้ได้ ๑๐๘ ตามความปรารถนา ตามตำรากล่าวไว้ว่า ตามแต่จะใช้เกิดประเสริฐดีนัก

บทความจากหนังสือ : เรื่องเล่าเคล้าปาฏิหาริย์ ตำนานวัตถุมงคล หลวงพ่อกวย ชุตินธโร หน้าที่ ๑๔๑~๑๔๖

…………………………………………………………………………………………………………
สุดยอดพระสมเด็จหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร
เครดิตข้อมูลจาก อ.สมจิตต์ เทียนจันทร์ (เฒ่า สุพรรณ)

จะขอบันทึกถึงสุดยอดพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ ที่หลวงพ่อได้บรรจงสร้างไว้ โด่งดังและมีมนต์ขลังติดอันดับระดับประเทศไทย พระของท่านผสมผงของสมเด็จโต วัดระฆัง จำนวนมาก เรื่องผงนี้พี่ชายคุณหมอเฉลียว เดชมา ได้ผงสมเด็จโตพร้อมพระ ที่สมเด็จโตทำไว้เกือบ 10 องค์ ผงอีก 1 บาตรใหญ่ มาถวายหลวงพ่อ ครั้งเมื่อไปเรียนหนังสือ และพักที่วัดระฆัง (ได้จากตู้จันอับ) พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ หลวงพ่อพูดเรียกว่า “พระพิมพ์ร่มโพธิ์” หลวงพ่อพูดว่า พระพิมพ์นี้ใครมีไว้บูชา ก็จะประสพแต่ความร่มเย็น เพราะต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงนั่งบำเพ็ญและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนตรัสรู้ เป็นต้นไม้ใหญ่โต เป็นที่อาศัยของนกกา และเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ในศาสนาพุทธ พระพิมพ์นี้มีหลักฐานการสร้างลงพ.ศ. ไว้ปี 2513 ด้านหลังปรกโพธิ์ 9 ใบ มีหลังยันต์นูน ยันต์จม พิมพ์บอกพ.ศ. และหลังแม่ธรณี พระมีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก

เล่ากันว่าพระปรกโพธิ์ 9 ใบนี้มีส่วนผสมของแร่วิเศษของวิเศษ ดังนี้ 1. แร่อุกาบาต 2. แร่เพชรหน้าทั่ง (แร่ฤาษี) 3. พลอยเสก 4. พระธาตุ 5. เกศาของท่านและของผู้มีบุญสูง 6. ว่านนางกวัก, นางคุ้ม, สบู่เลือด, เสน่ห์จันทร์, กาหลงฯ 7. โคตรเหล็กไหล 8. ผงสมเด็จโต, ผงของท่าน 9. ทรายเสกเป็นภูติพราย, ทรายแม่น้ำเนรัญชราและอื่น ๆ อีก ที่เหนือกว่านั้น ท่านสามารถเสกพระให้มีเทวดารักษาได้ ไม่ว่าพระนั้นจะเก่าหรือใหม่ ถ้าใหม่แต่บอกเล่าท่านและจะนำปัจจัยไปก่อสร้าง ท่านสามารถเสกพระใหม่ ได้เหมือนสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่เลย คือเทพยดารักษา มีเทวดาประจำองค์พระเหมือนของเก่าเลย ใน 1 ปี เดือนเมษายน ทางวัดจะเสกวัตถุมงคลโดยเฉพาะเหรียญหนุมานที่เสกใหม่ จะมีศิษย์มาเช่าบูชากันมาก บางปี เช่าบูชากันชนิดหมดวัดเลย แต่เดือนเมษา เดือนเดียว วัตถุมงคลมีมากขนาดเป็นคันรถกระบะ

คาถาเสกที่หลวงพ่อให้ไว้เขียนด้วยลายมือชัดเจน (บทสำคัญและเสกด้วยบทอื่นประกอบด้วย) ท่านเสกด้วยคาถา 3 บท

บทแรก เป็นคาถาเชิญพระแม่ธรณี คาถามี 6 ตัว ท่านจะเขียนด้วยภาษาขอม ขึ้นต้นด้วย “โพ อะ ...” ท่านเขียนไว้ 2 ครั้ง คำว่า โพ ท่านเขียนด้วย (พอ-พาน) อีก ครั้งหนึ่งเขียนด้วย (ภ-สำเภา) คาถา 6 ตัวนี้ ห้ามท่องบ่น ถ้าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ

บทที่ 2 เป็นคาถา บอกเรียกให้พระแม่ธรณี มาช่วยผจญพระยามาร, เสนามาร, ธิดามาร คือพระพุทธองค์เคยบำเพ็ญเพียรมามาก ได้กรวดน้ำ หลั่งอุทกวารี บีบออกมาจากมวยผม เพื่อมาช่วยพระพุทธองค์ ผจญกับพระยามาร เราจะพบภาพจิตรกรรมฝาผนัง จากในพระอุโบสถ หรือเมรุเผาศพ หลวงพ่อยังเขียนไว้ ตอนจดคาถาไว้ในสมุดคาถา หลวงพ่อเขียนไว้ยาว คัดลอกพอได้อ่านกันพอสังเขป “เมื่อแรกพระพุดที่เจ้า เทอจึงมาประจนด้วยหมู่มาร ให้ใภแภ้ในครั้งนี้ ส่วนนางพระแม่ทอระณี ทั่นจึงจะชำแลกแซกแพ่นดินขึ้นมา ทะหวายวันทา บังคมคัน บิทน้ำในมวยผม บ่อหมีรู้ยุด บ่อหมีรู้ยั้ง ย่อมล้นเหลือเผื่อฝั่ง พระชลนัดทีด้วยเด็จ สะเดชะพระบารมี...”

เป็นลายมือของหลวงพ่อคัดลอกจากลายมือเดิม (หน้าสุดท้ายหนังสืออิทธิปาฏิหาริย์ ท่านเขียนผิด ต้องเข้าใจด้วยว่า ท่านเรียนมาแค่ประถม 2 แต่ท่านเขียนขอมเก่ง แต่เอาเข้าจริง ภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น เป็นการวาดขึ้นตามจินตนาการ เพื่อให้ผู้รู้น้อยได้เข้าใจ ไม่มีพระยามาร ขี่ช้างมาทำร้ายพระพุทธองค์, ไม่มีเสนามาร (ลูกน้อง), ไม่มีธิดามาร, ไม่มีจระเข้ คือพระจะไปอธิบายให้ญาติโยมเข้าใจ ญาติโยมที่ปัญญาน้อย จะไม่เข้าใจเลยจริง ๆ พระยามาร, เสนามาร, ธิดามาร คือ กิเลส มีโลภ, โกรธ, หลง คือ อยากมีระลึกถึงสมบัติ เวียงวัง, ลูก, เมียฯ โกรธ คือ ปล่อยไปตามอารมณ์ โมโห, โทสะฯ หลง คือหลงในรูป, รส, กลิ่น, เสียง (ธิดามาร) คืนวันสุดท้ายที่พระพุทธองค์ได้ต่อสู้กับกิเลส และชนะกิเลสจนหมดสิ้น ก็ได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่พระพุทธองค์บำเพ็ญเพียร 6 ปี) หนีออกบวชได้ศึกษากับอาจารย์อาฬารดาบสและอาจารย์อุทกะดาบส แต่ไม่อาจค้นพบหนทางพ้นทุกข์ พระองค์จึงต้องมาบำเพ็ญเพียรเอง โดยบำเพ็ญทุกกรกิริยา ฉันแต่ผลไม้ (พุทรา), ใบไม้ เดิมนั่งบำเพ็ญเพียรใต้ต้นพุทรา ฉันแต่ลูกพุทรา ที่หล่นลงมา อยู่ต่อมาฉันแต่น้ำ และไม่ฉันน้ำ แต่ไม่สำเร็จ จึงฉันอาหารที่นางสุชาดานำมาถวาย ทรงสรงน้ำ และบำเพ็ญเพียรใต้ต้นโพธิ์ จึงสำเร็จ ฉะนั้น ต้นโพธิ์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น

คาถาบทที่ 3 เป็นคาถาบารมี 10 แตกแยกออกมา 30 ข้อ เรียกว่า คาถาบารมี 30 ทัศ (ทัศน่าจะแปลว่า ข้อ) คาถาบารมี 30 ทัศนี้ เป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ที่บำเพ็ญเพียรมา เวลาทำน้ำมนต์ 3 บท ต้องใช้คาถาบทที่ 3 นี้ด้วย เล่ากันว่า ครูบาศรีวิชัย ตอนบูรณะเมืองเชียงใหม่, ลำพูน, ลำปางฯ (บูรณะวัด, เจดีย์) ท่านสวดบทนี้ 5 ทุ่ม ตี 1, ตี 2 เศรษฐีไม่อาจนอนหลับได้ ต้องให้คนใช้หาบเงินมาทำบุญกับท่าน

คาถาสามบทนี้ บทที่ 1 และ 2 เป็นทั้งมนต์ดำและมนต์ขาว บทที่ 2 ขึ้นต้นด้วย “ตัสสา เกสีสะโต...” สวดอยู่ยามค่ำคืน ใครจะทำอะไรไม่ได้เลย คนที่คิดไม่ดีต่อเรา จะแพ้ภัยตัวเอง คาถา 3 บทนี้ใช้ทำน้ำมนต์ รดอาบจะชนะศัตรู, ใช้เสกข้าวให้สุนัข (หมา) กิน 1-3 ก้อน จะชนะศัตรู คาถานี้ขึ้นต้นด้วย (บทที่ 3) “อะยันตุ โพนโต...”

ส่วนพระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ เดิมหลวงพ่อใช้ได้ดำริสร้างไว้ 2 -3 แบบ แต่รูปแบบ ยังไม่เป็นที่พอใจ สร้างก่อน พ.ศ. 2513 มีพิมพ์ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธชินราช ด้านพระพุทธชินราช นูนออกมาไม่สวย, อีกพิมพ์หนึ่งเป็นยันต์ดวงแก้ว (ยันต์คล้ายของเข้าคุณนร) ในปี พ.ศ. 2512 สร้างเป็นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ (ตุ๊กตา) แต่เป็นยันต์นูน (ทำไม่มาก ปลอมยากสักหน่อย) ในปี พ.ศ. 2513 สร้าง ด้วยยันต์จม (เขียน พ.ศ. ว่า 2513 ยันต์ตุ๊กตา) และมีแบบหลังแม่ธรณี เส้นจมอยู่ด้านหลัง ทางวัดราชนัดดา กรุงเทพ ท่านเจ้าอาวาส นับถือหลวงพ่อเป็นอาจารย์ (ท่านก็เป็นพระเกจิอาจารย์) ได้ปรึกษากันขอสร้างพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ และพระสมเด็จหลังพระสิวลี ก็สร้างประมาณ พ.ศ. ใกล้เคียงกัน แต่ของวัดราชนัดดา เขาใส่พลอยเป็นเม็ดเล็ก ๆ ได้สร้างขนาดบูชา เนื้อผงด้วย (ดินก็สร้างแต่ปลอมมาก โดยมากปลอม)

พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ ที่พบมากและนิยม จึงมีเพียง 2-3 แบบ ที่พบมาก คือหลังยันต์จม มีทั้งบอก พ.ศ. 2513 และไม่บอก พ.ศ. ที่แพงและนิยมสุด ๆ คือ พิมพ์หลังแม่ธรณี ทั้งแบบผ้าถุงถี่และผ้าถุงห่าง เล่ากันว่าหลังยันต์ดีทางคุ้มภัย เรียกให้ช่วย ถ้าเป็นหลังแม่ธรณี เขาว่าเงินทองจะไหลมาเทมาคล่องกว่า จึงนิยมกว่า

การสร้างและการกดพิมพ์ พระใน พ.ศ. 2513 (ยันต์จมและหลังแม่ธรณี) ได้ทำ 2 ครั้ง คือ พ.ศ. 2513 หลวงพ่อทำเองกับมือ แต่ทำได้น้อย จึงทำครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2516 พระที่บูชาใช้กัน ส่วนมาก (โดยมาก) เป็นการทำครั้งที่ 2 พระทำครั้งที่ 2 นี้แจกไม่หมด ศิษย์ไม่อยากได้เท่าไร เพราะพระใหญ่โต มาเล่นหากันตอนที่รู้ว่า พระของท่านเก่ง เก่งมาก ๆ โต ก็จะใช้ พระเก็บไว้ในหีบหนัง ท่านพูดว่าพระนี้เขามีเจ้าของ ไม่ช้าไม่นานเจ้าของเขาก็จะมาเอา พระพิมพ์นี้ ใช้น้ำมันตังอิ้ว เป็นตัวประสาน พระจึงดูไม่แห้งเท่าอายุ (พระชุด 2 นี้มีปลอมแกะพิมพ์ใหม่ แกะพิมพ์ได้สวยกว่าของเดิม มวลสารที่ใส่มากกว่าของเดิม)

มวลสารที่ผสมใส่ หลวงพ่อจะใส่ผงสมเด็จโตจำนวนมาก, ผงพุทธคุณของท่าน ผงปัถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงนะ๑๐๘, เกศาครูบาอาจารย์ ผู้มีบุญญาธิการ รวมถึงของท่านเอง , พระธาตุ, แร่ต่าง ๆ, เถ้าอังคารหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, เถ้าอังคารหลวงพ่อศรี (สี) วัดพระปรางค์, ดอกไม้ดอกกาหลง, ดอกพิกุล, ว่านเสน่ห์จันทร์, ว่านสาวหลง, แป้งสาวพรหมจรรย์, แร่เพชรหน้าทั่ง, แร่โคตรเหล็กไหล แร่อุกกาบาต สะเก็ดดาว, เมล็ดมะกล่ำขาว, ขนนกการะเวก, ไม้คันทรง, ดีสัตว์, พลอยเสก ทรายเสก, หินเขี้ยวหนุมาน คตจากธรรมชาติ ฯลฯ พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ (พิมพ์ 2 ครั้ง) ท่านทำไว้เกือบ 12 สี มีน้ำตาล, ชมภู, ดำ, ขาว, ดอกมะลิ, ส้ม, เขียวฯ แต่ชนิดสีพบน้อย ที่พบมาก คือ เปลือกไข่, ขาว, พิกุล, ส้มฯ สีดำพบน้อยดูยากสักหน่อย

การเสกท่านจะเสกด้วยคาถา 3 บท มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือคน (ศิษย์) โดยอ้างอิง พระแม่ธรณีให้มาช่วย นอกจากนั้นก็เสกด้วยพระปริตร แก้โรคระบาด แก้และกันห่ากินคนและกินสัตว์ และเสกด้วยบทอื่น ๆ อีกหลายบทเป็นเรื่องแปลก แปลกมาก ๆ และมหัศจรรย์ คือ พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ สามารถบอกเล่าเวลามีภัย สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ภายใน 5 วินาที ถึง 5 นาที เหมือนเช่นกำลังโดนจับ ค้น ขอดูใบขับขี่, ขอดูสำเนารถ, รถชนกันฯ แล้วเราโทรไปหาตำรวจ ยศสารวัตร โทรติดให้เขาช่วยพูดเรื่องจบเลย เมีย (พวกบ้าน, ภรรยา) จับได้ว่า ไปมีกิ๊ก สามารถบอกเล่ากับคาถา 6 ตัว บางคนแก้ไขไม่ได้ อาจต้องบอกเล่ากับหลวงพ่อและพระปรกโพธิ์ 9 ใบ อาจแก้ไขสถานการณ์ได้ ภายใน 5 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง (ถ้าแก้ไม่ได้อาจถึงบ้านแตก) พระนี้มีเทพยดาที่ใจร้อน, ใจไว, จิตไว, ปกปักรักษาอยู่ (ขอจัดอันดับ 1 แหวกม่านอกใหญ่ก็อันดับ 1 หลังรูปรุ่นแรก พิมพ์เล็กนิยมก็อันดับ 1 เก่งทั้ง 3 แบบ ไม่ขอจัดเป็นรองพระ 3 แบบ เนื้อผงนี้ ถ้าท่านมีปัจจัยมาก ทำธุรกิจหลายร้อยล้าน ควรหาไว้ พระนี้ไม่เป็นรองใคร ถ้าจะเป็นรอง ก็เป็นรองแต่ของสมเด็จโต แต่ก็ใช้ผงสมเด็จโต ผสมสร้างองค์จริง ๆ หาได้ยาก ดูยากด้วย ดูยากกว่าแหวกม่านอกใหญ่ และหลังรูป 1 พิมพ์นิยม)

นายแถม เหมือนเงิน เป็นคนท่าเตียน อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ไม่ไกลจากบ้านผู้เขียนนัก เป็นญาติห่าง ๆ บ้านเดิมอยู่ห่างกัน 50 เมตร เป็นนักเลงในวัยหนุ่ม พ่อเลี้ยงรังแก สุดจะทานทน ได้สู้กัน พ่อเลี้ยงใช้มีดปาดตาล นายแถมใช้พร้า พ่อเลี้ยงโดดลงมาจากบ้านจะฟัน นายแถมฟันสวน ฟันก่อน โดนตรงคอ คอบาดเลย ผีพ่อเลี้ยง สางตาสง เฮี้ยนมาก คอขาด โดดลงมาจากต้นตาล ยามค่ำคืน บ้านนอกเงียบมาก โดดลงมา แหวกใบตาล น่ากลัว โดดมาแต่คอ นายแถมรวบรวมความกล้า คนอื่นไม่กล้า ถ้าเจอจะฟันซ้ำ เอาไฟฉายไป พอเข้าไปมีกลิ่นเหม็นเต็มไปหมด ส่องไฟดู เจอหัวกะโหลกเต็มไปหมด ดูชัด ๆ เป็นลูกตาลสุก นายแถม เมื่อไปกรุงเทพ นอนมุ้งเดียวกันกับผู้เขียน ที่บ้านพักตำรวจ สน.ยานนาวา เป็นน้องชาย จสอ.ประเทือง เหมือนเงิน เขาเป็นคนจริงเคยใช้ตะกรุดหลวงพ่อ โดนยิงไม่ออกเลย โดนหนัก ๆ กลัวตาย โดนยิงที่ อ.ด่านช้าง สุพรรณ

ไปกราบหลวงพ่อ หลวงพ่อเห็นว่า อันตรายเลยบอกว่า (พูดว่า) เอาปรกโพธิ์ไปใช้ดีกว่า เอาที่มันมองไม่เห็นมึง แต่พอเอาเข้าจริง ท่านก็หยิบหลังรูป เนื้อกระดูกผีมีให้มาอีก 1 องค์ นายแถมยังหาสมเด็จหลังรูปรุ่นแรกไว้บูชา อีก 1 องค์ คือไปซื้อที่อยู่ดวงด่านช้าง เจ้าพ่อขอซื้อต่อ เขาไม่ให้ เมื่อพูดกันดี ๆ ไม่รู้เรื่อง ก็ต้องพูดกันด้วยปืน เจ้าพ่อส่งคนมายิงเขา เขาคล้องปรกโพธิ์ 9 ใบหลวงพ่อให้ใช้องค์นี้ สายรายงานว่าขับรถมอเตอร์ไซค์ ออกมาแล้ว มือปืนดักอยู่ห่างบ้าน 10 กิโลเมตรได้ (จะมาบ้าน, ธุระที่ตลาดท่าช้าง) มือปืนไม่เจอ เจอแต่พระชราองค์หนึ่งขับรถมา นั่งบนถังน้ำมัน มีคนซ้อนแก่มาก นั่งซ้อนท้ายมา น่าจะเป็นทายกวัด บางครั้งหลวงต่อองค์นี้ ก็นั่งหมอบหลบลม บางครั้งก็ขี่โก๋หลบลมเอาขาหลังพาดเบาะก็เคย มีคนเห็นหลายคนเขาจำรถได้ บางครั้งก็จำนายแถมได้ หลวงพ่อก็แสบเหมือนกัน สมัยอั้งยี้เรืองอำนาจ ท่านเคยถ่ายรูปไว้ใส่แว่นตาดำ แบบยุคสมัย แว่นโต ๆ แบบนักเลงเขาใส่ นายแถมได้มาขอพรสมัยหนุ่ม ๆ ลูกเขาเป็นตำรวจยศดาบ 1 คน, พยาบาล 1 คน แต่ท่านบอกให้นายแถมชื่อที่ดวงที่ป่าไว้ถูก ๆ มาก ๆ ลูกสาวคนหนึ่งเรียนไม่เก่ง ได้รับมรดกที่เดี๋ยวนี้เป็นเจ้าแม่รวยในดง

บุญชี อ้นฉ่ำ อดีตเป็นนักการภารโรง ร.ร.พัฒนาปากน้ำ ผู้เขียนสอนอยู่ 2 ปี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านผู้เขียน บุญชูเป็นลูกพ่อแก่อุ้ย อายุตอนตาย 100 ปี พ่อแก่อุ้ยเป็นน้องเสือผ่านจมูกขาด เสือผ่านเคยเอาก้อนเงินที่ปล้นมาได้ มาถวายหลวงพ่อทำปลัด บุญชูเป็นภารโรง แต่ไม่มีใครรู้ว่า เป็นนักเลง เป็นมือปืน เขาใช้พระรอดของหลวงพ่อ มีเป็น 10 องค์ เคยโดนยิงไม่เคยถูกเลย ให้คนไปจับใบดำ ใบแดง คัดเลือกทหารก็ไม่ถูกทหาร โดนแอบยิงที่ ร.ร. และที่บ้านประจำ นึกกลัวขึ้นมา ได้มากราบหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกเอาปรกโพธิ์ 9 ใบ ไปใช้ซิ มันจะมองมึงไม่เห็น บุญชูโดนแอบยิงอีก ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน คนร้ายหาเขาไม่เจอ บุญชูเห็นคนร้าย แต่คนร้ายไม่เห็นบุญชู เลยไม่มีการยิงกันเฉย ๆ เลย บุญชูมีรูปหล่อ 1 ( 1 องค์) เคยโดนยิงไม่ออก 2-3 ครั้ง นับว่าปรกโพธิ์นี้กำบังดีมาก

คนหนึ่งชื่อ สมนึก มั่นปาน บ้านอยู่ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี เป็นคนพอจะมีฐานะ แต่ก็ถูกอิจฉาตาร้อน จากคนในอาชีพเดียวกัน คุณสมนึกเขามีพระปรกโพธิ์ 9 ใบใช้บูชา อยู่ 1 องค์ แต่พอคนร้ายจะเข้าบ้านได้แอบดู บริเวณบ้าน ปรากฏว่าคนในบ้านไม่ยอมหลับนอน เดินไปเดินมา เพ่นพ่านเต็มไปหมดเหมือนมีงาน บริเวณบ้านมีแสงสว่างคล้ายมีดวงจันทร์อยู่ (ส่องอยู่) เลยขโมยความไม่ได้ อีกครั้งคู่อริได้ว่าจ้างให้คนร้ายมาขโมยรถกระบะในบ้าน คนร้ายก็ร้ายสมชื่อ ได้พยายาม ดันรถจากข้างบ้านให้ถอยออกมา นอกรั้วจนได้ โดยไม่ยอดติดเครื่องยนต์ เกรงว่าเจ้าของบ้านจะตื่น แต่ด้วยความมืด ความกลัว คนร้ายได้ดันรถยายามจะออกถนนใหญ่ คนร้ายดันรถโดยไม่มีใครคุมเบรคและพวงมาลัย รถได้ถอยตกบ่อหลาริมคลอง ริมถนน รถตกไป 2 ล้อหน้า คนร้ายเลยเอารถไปไม่ได้ ครั้งสุดท้าย คู่อริ ได้ว่าจ้างมือปืน มาฆ่าคุณสมนึก มือปืนเป็นคนละโมภได้พยายามอยู่หลายครั้ง พอมาถึงคันรั้ว ก็มักจะมาตอนเดือนหงาย แต่พอมาถึงกลับเจอผู้คนหลายคนเป็น 10 คน เดินไปมา แม้จะเห็นคุณสมนึก แต่ก็ยิงไม่ได้ มีคนเดินบังทางปืน อยู่หลายครั้ง จนหมดความอดทน เพราะมายิงตก 10 ครั้ง เลยเลิกความตั้งใจ ภายหลังสืบทราบว่า คุณสมนึกเป็นคนดี เลยเล่าเรื่องให้ฟังทุกอย่าง นับว่าพระปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ดี มีทรายเสกเป็นภูติพรายผสมอยู่

เถ้าแก่เล็ก หนองตาแก้ว คือบ้านเขาอยู่หนองตาแก้ว เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นคนมีฐานะดี ค่อนข้างมาก มีรถทัวร์ เคยเป็นนายกเล็ก (อบต.) เป็นดอง (ลูกสาวได้แต่งงาน) กับคุณป้าสมนึก ภู่งาม เถ้าแก่เล็กมักโดนคนร้ายงัดแงะ ลักทรัพย์สินเป็นประจำ จึงมาปรึกษาหลวงพ่อ หลวงพ่อได้ตักทรายเสกให้ไป 1 ถุง ให้เอาไปหว่านรอบ ๆ บ้าน และในบ้าน สมัยนั้นก็มีคนติดยาบ้ากันแล้ว (สมัยนั้นเรียกยาบ้านว่า ยาม้า) คนร้ายได้พยายามมางัดแงะบ้านเถ้าแก่เล็กประจำ แต่เมื่อมากลับเห็นคนในบ้านไม่ยอมหลับยอมนอน หลายคนหลายครั้ง คนร้ายนอนคอยจนหลับอยู่ข้าง ๆ บ้าน พอเจอคนจริง ๆ ตอนสว่างก็ตื่นและลุกวิ่งหนีไป หลายคนนอนคอยอยู่ในโรงนาจนหลับก็มี เถ้าแก่เล็กเห็นว่า หลวงพ่อกวยนี้มีอาคมดี จึงไปเช่าพระ ขอพระกับหลวงพ่อ เอามาใช้คล้องคอ หลวงพ่อได้ให้พระพิมพ์ร่มโพธิ์ (ปรกโพธิ์ 9 ใบ) มาใช้บูชา เถ้าแก่เล็กเขาจะดุมีสง่าราศรีดีขึ้น ทำอะไรก็เจริญงอกงาม ได้ขอพระกับปรกโพธิ์ 9 ใบ ก็สมัครเป็นนายกเล็กได้ คนร้ายก็เลิกคิดเข้ามางัดแงะทรัพย์สินในบ้านอีก

อีกคนหนึ่งเขาชื่อ บรรพต แจ้งสมบูรณ์ บ้านอยู่อำเภอครบุรี โคราช เขามีฐานะดี บ้านเขาอยู่ในหุบเขาลึก ในดงของอำเภอครบุรี มีที่เป็น 100 ไร่ ฐานะค่อนข้างดี เขาทำไร่ทำสวนมีมะขามหวาน, ทุเรียน เขามีพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ใช้บูชาอยู่ เขาเคยสมัครนายกเล็ก (อบต.) คู่แข่งไม่ชอบใจ คู่แข่งได้ส่งคนร้ายมือปืน มาลอบฆ่าเขา 2 ครั้ง สำคัญ มากันครั้งละ 1 คันรถกระบะ ครั้งแรกนัดกัน กับคนชี้เป้า คนร้ายไม่ได้พกปืนมา แต่มีคนนำอาวุธมาซุกซ่อนให้ไว้ ครั้งแรกมากัน หาจุดนัดพบไม่เจอ หลายปีมาแล้ว มือถือมีคลื่นบ้าง ไม่มีบ้าง ล้มเหลว ครั้งที่ 2 มากันมากเท่าเดิม ไม่ได้พกปืนมา (ปืนสงคราม) ถ้าพกมาอาจเจอตำรวจระหว่างทาง แต่พอมาถึงจุดยิง ปรากฏว่าหาปืนไม่เจอ ปืนซุกในพุ่มไม้ แต่หาคนละพุ่มเลยไม่เจอ เข้าใจว่าเป็นอำนาจของพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ที่คุณบรรพตคล้องคอ และสวดมนต์ ขอให้ช่วย ถ้ามีภัย แต่คุณบรรพต เขาไม่ยอมซื้อเสียงเลยแพ้เขาภายหลังคนร้าย 2-3 คนเห็นว่าคุณบรรพตเป็นคนดี, ซื่อ เลยเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง คุณบรรพตเคยคล้องคอด้วยพระนี้ พร้อมมีดหมอของหลวงพ่อ ไปล่าสัตว์ เช่นหมู่ป่า, กระต่าย, นำรถกระบะไป ไปนอนในไร่ลึกในป่า เขาหลับไป (ก่อนนอนสวดมนต์ขอพรกับปรกโพธิ์) ตื่นขึ้นมา มีรอยตีนช้างป่าเป็นฝูง มาเดินรอบ ๆ เต้น นอนและรถเป็น 10 ตัว แต่ไม่มาทำร้ายเขาและเพื่อน ปกติช้างป่านี้ ถ้าเจอคนและสิ่งแปลกปลอม จะรุมทำร้ายอาจกระทืบเอาถึงเละและตาย คงเป็นเพราะอำนาจของปรกโพธิ์ 9 ใบ และมีดหมอ ตลอดในมนต์ 3 บท และคาถากันภัย 8 ทิศร่วมด้วยช่วยกัน

นายสำราญ (เอียง) น้ำจันทร์ เคยยิ่งใหญ่ เป็นกำนันตำบลบ้านของผู้เขียน โด่งดังมาก ตัวโต บังผู้เขียนมิด เคยสมัครเป็น ส.ส. (ยุคหมาหลง) เป็นสหายทางเกเร (เป็นศิษย์) เป็นศิษย์ของ อ.แสวง วัดหนองอีดุก อายุคราวพ่อของผู้เขียน เคยซื้อนาของผู้เขียน ปลูกบ้านในบั้นปลายของชีวิต มีลูกมากหลายสิบคน เมียมีมากกว่าลูก แก่กว่าผู้เขียน คือ รุ่นพ่อ อาชีพพิเศษรับซื้อ, ไถ่ถอน วัว, ควาย เป็นหัวหน้าโจร เขามาขอเป็นเพื่อนกับผู้เขียน ผู้เขียนเห็นว่า เสียเปรียบ เลยตกลง เขามีปรกโพธิ์ 9 ใบ อยู่ 1 องค์ใช้อยู่ วันหนึ่ง เพื่อนชวนไปลักควาย ไปกัน 2-3 คน เขาตกลง แต่พอเอาเข้าจริง เจ้าทรัพย์ ก็นักเลงพอตัว เจ้าทรัพย์ตื่นก่อน ได้ยิงกำนันเอียง ด้วยปืนลูกซองยาวบรรจุลูกโดด ยิงโดนโดนขา แต่ก็หนีมาได้ กลางดึกได้แอบมารักษาตัว ที่บ้านหมอรวย ตลาดปากน้ำ บ้านผู้เขียน หมอรวยฉีดยาแก้ปวด แก้อักเสบให้ พอดีเผลอหลับไป ค่อนสว่างเจ้าทรัพย์มาสืบดูเจอกำนันเอียง นอนหลับอยู่ จำได้ว่า เขายิงเอง กำนันก็ตื่นพอดี 2 คนรู้จักกัน (พอเจอกัน กำนันก็ว่าคาถา 3 บท ให้หลวงพ่อช่วยให้ปรกโพธิ์ 9 ใบช่วย) เจ้าทรัพย์พูดว่า กำนันมึงเป็นอะไร มานอนอยู่ที่นี่ กำนันตอบว่ากูไปลักควายเขา โดนเจ้าของควายยิง เจ้าทรัพย์พูดว่า กูยิงเอง กำนันพูดว่า กูไม่รู้ว่าเป็นบ้านมึงและควายมึง กูไม่รู้จริง ๆ เพื่อนมันชวนไปเป็นเพื่อนกูก็ไป แล้วทั้งโจรและเจ้าทรัพย์ก็ร้องให้ กอดกันเฉยเลย (อำนาจของปืนลูกซอง บรรจุลูกโดดนี้ ยิงโดนตรงขา ขาบวมคับกางเกง ปวดแทบเดินไม่ได้เลย ดีว่าเพื่อนช่วยพยุงมา 2 คน เพื่อนเกือบทิ้งไว้กลางทางหลายหน เพราะกำนันเขาตัวโต น้ำหนัก 100 กว่ากิโลกรัม) นี่คือตำนานส่วนหนึ่งปรกโพธิ์ 9 ใบ ตอนท้ายจะเล่าตอนอิทธิฤทธิ์ที่เด็ดขาดกว่านี้ อย่าเพิ่งกระพริบตา

นายธนภัทร เป็นคนภาคกลาง แต่บ้านเกิดอยู่ภาคใต้ ไม่รู้นามสกุล และที่อยู่ เขาบูชาพระปรกโพธิ์ 9 ใบอยู่ 1 องค์ นับถือมาก นับถือปรกโพธิ์ และหลวงพ่อมาก พ่อมีอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ กุ้งกุลา (คำว่ากุลา น่าจะแปลว่า ไม่เหมือนเผ่าพันธุ์เดิม) กุ้งกุลาจึงตัวดำ แต่มีราคาแพง เนื้อกินอร่อยกว่ากุ้งทั่วไป เลี้ยงยากกว่ากุ้งชนิดอื่น ๆ มีช๊อคตาย ตายก่อนขายเป็นประจำ คุณธนภัทร ได้ไปเลี้ยงกุ้งกับพ่อที่ภาคใต้ เขาคิดถึงหลวงพ่อเสมอ แต่การไปเลี้ยงกุ้งกับพ่อ เขาสงสารพ่อมาก เพราะกุ้งมักน๊อคตาย ไม่เหลือขาย มักขาดทุนประจำ เขาสวดมนต์และระลึกถึงหลวงพ่อเสมอ วันหนึ่งจิตสงบ (สวดมนต์) ปัญญาเกิด เขาได้นำพระปรกโพธิ์ 9 ใบ (เขาว่ากันห่าและโรคระบาดสัตว์ ได้หลวงพ่อปลุกด้วย ปริตรมนต์ด้วย) เขาเลยนำพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ทำน้ำมนต์รดบ่อกุ้ง จุดธูปบอกกับหลวงพ่อว่า กุ้งไหน ๆ เขาก็จะต้องตาย เมื่อโดนจับไปขาย หรือตายก่อนกำหนด คือน๊อคตาย ผมขอให้หลวงพ่อช่วย, พระปรกโพธิ์ช่วย, พระแม่ธรณีช่วย, ขอให้กุ้งอย่าเพิ่งตาย ขอให้ได้กำหนดจับไปขาย แล้วค่อยตาย เขาขอแบบนั้น ปรากฏว่า กุ้งของเขาไม่น๊อคตาย ก่อนกำหนด จับขายได้ ตอนโตเต็มวัย จับขายได้ 2-3 บ่อ เป็นเงินหลายแสนบาท พ่อของเขาดีใจมาก เขาเลยเล่าเรื่อง ให้พ่อฟัง พ่อขายกุ้งได้ ให้เงินเขามา 1 แสน 5 หมื่น ให้มาหาซื้อพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ตาใจที่เหลือก็ให้ไว้ใช้ เดี๋ยวนี้คุณธนภัทร ก็ยังเลี้ยงกุ้งกุลาดำอยู่ อำนาจของพระปริตร (มนต์) ที่บรรจุอยู่ในพระปรกโพธิ์ 9 ใบของหลวงพ่อนี้ก็สำคัญเหมือนกัน มนต์นี้มีมาตั้งแต่พุทธกาล พระสมเด็จวัดระฆัง ของสมเด็จโต ก็เสกและบรรจุมนต์นี้ สมัยสมเด็จโตยังอยู่และมรณภาพไปแล้วเคยมีโรคห่าระบาด ชาวบ้านก็ใช้สมเด็จวัดระฆังนี้ ทำน้ำมนต์รักษาได้ (กุลา น่าจะแปลว่า ต่างเผ่า)

คุณภานุกรณ์ พรนวะม่วง บ้านอยู่กรุงเทพ เขาบูชาพระปรกโพธิ์ 9 ใบ 1 องค์ เขาสงสัยว่า พระนี้ผู้มีบุญเท่านั้น จึงจะได้ไว้ครอบครอง เขาเดินเรือทะเล สงสัยทีไรสร้อยขาดทุกที พอขึ้นฝั่ง ตำรวจน้ำ ได้จับบุหรี่หนีภาษีของเขาได้ เป็นเงินมากหลายหมื่นบาท เขาได้บอกเล่ากับพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ให้ช่วย ผลคือ ตำรวจน้ำยึดบุหรี่ของเขาเอาไปหมด แต่ไม่จับเขา ก็ยังดียึดบุหรี่ ไม่โดนจับ เขาเคยขี่รถ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไปเติมน้ำมัน มีเงินแค่ 500-1,000 บาท แต่พอเติมเสร็จ รถเกิดสตาร์ทไม่ติดเฉยเลย เจ้าของปั้มก็ดีใจหา ได้ไปตามช่างมาแก้ไขซ่อมให้ (เขาเติมน้ำมันหมดตัวไปแล้ว) เมื่อกำลังซ่อมรถอยู่ เขานึกถึงพระปรกโพธิ์ให้ช่วยเมื่อซ่อมเสร็จ ได้ถามราคาช่างว่าเป็นเงินเท่าไร ช่างไม่คิดสตางค์เฉยเลย พูดว่ากับเถ้าแก่ปั้มน้ำมันเป็นเพื่อนกัน งานนี้ฟรี ถ้าวันนั้นมีการคิดสตางค์คุณภานุกร ต้องหน้าแตกแน่ ขี่บีเอ็มดับบริว แต่ไม่มีเงินจ่าย ค่าซ่อม ขี่รถระดับนี้ช่างจะเรียกราคาเท่าไร ก็ต้องให้เขา นับว่าพระนี้ เป็นพระที่ดี เรื่องแบบนี้ คุณศิริชัย - คุณแหม่ม ธีรวณิชยะกุล บ้านอยู่โรงฟอกหนัง สมุทรปราการ มีโรงงานด้วย มาหาเช่าพระ ปรกโพธิ์ 9 ใบ จากศูนย์แห่งหนึ่ง เช่าแบบหมดตัวเลย เขาเข้างานตอนกลางคืน คุมเครื่องจักร ดูแลความเรียบร้อย แต่หนีงานมา 4-5 ทุ่ม กับ ตี 1-2 ขากลับง่วงนอนขี่รถเร็ว, ขี่กินเลนด์ตำรวจเรียกจับ ไม่มีเงินจ่าย ขี่รถปาเจโร่ใหม่ แต่ไม่มีเงินเสียค่าปรับเถื่อน ตำรวจกักตัวอยู่ในป้อม 1-2 ชั่วโมง แต่พอนึกถึง พระปรกโพธิ์ให้ช่วย ตำรวจปล่อยตัว หน้าตาเฉยเลย

อ.ถมยา วัดท่าแก้ว เป็นพระอยู่วัดท่าแก้ว อ.หันคา จ.ชัยนาท เป็นศิษย์มือขวา เก่งตัวจริง ได้วิชาทำน้ำมนต์, ได้คาถามนต์พระกาฬ, ได้วิชาทำผงฯ สุขภาพท่านไม่ดี อายุ 4-5 ขวบ (เป็นโรคหอม) พ่อแม่ตัดใจให้เดินทางไปหาหลวงพ่อปาน วัดนางนมโค รักษาให้ชี้ทางให้ ห่อข้าวไป จากชัยนาทถึงอยุธยา หลวงพ่อปานรักษาไม่ได้ ได้แต่กินยาพอประทัง บวชเณรให้ได้จดตัวยา, ว่านต่าง ๆ ให้มา เมื่อบวชแล้วก็หาตัวยา เพื่อทำพระหมอยา มาได้ตัวยางที่หลวงพ่อกวย พร้อมผง มาทำยาชื่อ พระหมอยาไภสัชชะยะคุรุ ถอนคุณผี, คุณคน, กันผีปอบ, กระสือ ถอนคนไข้ที่ป่วยเป็นไข้หัวลม, ผีแอบแฝงอยู่ รวมทั้งโรคกรรม อ.ถมยา ได้มนต์พระกาฬจากหลวงพ่อ และได้พระปรกโพธิ์ 9 ใบ 2-3 องค์ อ.ถมยา ได้ใช้พระปรกโพธิ์ 9 ใบ ทำน้ำมนต์ เรียกว่าโด่งดังมาก ขออย่างไร โดยมากสำเร็จ ครั้งสำคัญ มีอดีต ส.ส. ชื่อบุญธง สรงประภา เป็นคนหันคา จ.ชัยนาท จะสมัคร ส.ส.แต่ได้สืบถามและถามตรง ๆ ว่าจะมีพระองค์ไหน ทำน้ำมนต์รดแล้วจะได้เป็น ส.ส. (ตอนนั้นหลวงพ่อกวย มรณภาพแล้ว)

เมื่อคุณบุญธง ถามอย่างนั้น ไม่มีหลวงพ่อ หลวงปู่องค์อื่นรับอาสา คุณบุญธง สืบไปถึง อ.ถมยา อ.ถมยาตอบว่าได้ (พูดแบบหลวงพ่อ) อ.ถมยาได้ใช้น้ำมนต์ 3 บททำและเชิญหลวงพ่อทำ เชิญพระปรกโพธิ์ 9 ใบทำ ผลออกมา ส.ส.บุญธง สรงประภา ได้เป็น ส.ส.ได้บูรณะ วัดท่าแก้ว จนชราภาพ ได้ขอพรกับท่าน เพราะต่างคนต่างชราภาพ อ.ถมยา ได้รดน้ำมนต์ ให้ลูกชายและลูกสาว ของ ส.ส.บุญธง ให้คือ ส.ส.มณเฑียร สรงประภา ลูกสาวชื่ออะไรไม่รู้ เขาชอบใช้ชื่อเล่นหาเสียง เขาชื่อ มันแกว 2 คนพี่น้องนี้ ก็ได้เป็น ส.ส.หลายสมัย มาเลิกเป็น (สมัคร) ชั่วคราว สมัย อดีตนายก พณฯบรรหาญ ศิลปอาชา พระหมอยาและพระคะแนน (ใช้ผงสมเด็จโตและผงหลวงพ่อกวยล้วน) ทำจากผลขาวล้วน เป็นพระคะแนน แต่ใช้แม่พิมพ์ตัวเดียวกัน ขนาดเดียวกัน คุณประเจียด คงศาตรา เคยเขียนถึงพระผงล้วนว่า เป็นพระที่ดีหายาก พี่เขาเรียกว่า “ผงนะหน้าทอง” มีเมตตาสูงมาก พระพิมพ์นี้ เสกโดย หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการาม, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และหลวงพ่อกวย เสกองค์ละ 5-7 วัน 5-7 คือ เสกที่วัด 3 องค์นี้ เป็นอาจารย์ของ อ.ถมยา แต่ตอนมาเสกไม่ได้ไปเสกพร้อมกัน พระเนื้อหมอยา เก่งทางยา แต่คนไม่รู้ค่า ท่านพูดน้อย ท่านเป็นหมอยา ชาวบ้านเรียกท่านว่า อ.ยา คือกินยาทับถมมาก เรียกเต็ม ๆ ว่า อ.ถมยา ศิษย์ของหลวงพ่อองค์นี้เก่งสุด รองลงมาคือ พระครูพิมพ์ วัดสนามชัย องค์นี้เก่งทางบู้

เจ้าของเรื่องเป็นเศรษฐี บ้านอยู่บ้านแค มีฐานะดี ค่อนข้างมาก เดิมมีนาเป็น 100 ไร่ เศรษฐีมีนามา ก็จะมีคนใช้มาก มาช่วยทำนา เศรษฐีได้เลี้ยงเด็กไว้คนหนึ่ง ตั้งแต่เล็ก ตอนเล็ก (ประมาณจบประถม 4) หลวงพ่อป่วยหนัก ได้ให้เด็กคนนี้ (สมมุติว่าชื่อแกละ) มาดูแลหลวงพ่อ เด็กคนนี้เป็นคนปากกล้า คุ้มครองไล่แขกได้ (ไม่ให้มารบกวนนัก) หลวงพ่อได้เมตตาให้พระปรกโพธิ์ 9 ใบมา 1 องค์ เขาใช้อยู่จนโตเป็นหนุ่ม นายแกละ เกิดไปชอบลูกสาวเศรษฐีเข้า เศรษฐีมีลูกสาว 7-8 คนแบบท้าวสามลเลย เมื่อความรักมันหนักอก นายแกละ ขณะไปทำนา เขาได้เสี่ยงสัตย์อธิษฐานว่าจะรักลูกเศรษฐีจนตัวตาย ขออำนาจของพระปรกโพธิ์ 9 ใบ ช่วยเหลือเขาด้วย เขาได้นำพระปรกโพธิ์ไปทำน้ำมนต์ในกระบอกน้ำ โดยเสี่ยงสัตย์อธิษฐาน ว่าหากนางจะเป็นเนื้อคู่กับเขา ขอให้ลูกเศรษฐีรับน้ำมนต์ในกระบอกนี้ดื่มกินด้วยดี เมื่อลูกเศรษฐีมาถึง (กรรมเก่าก็มาพร้อมกัน) เธอได้รับน้ำในกระบอก (น้ำมนต์) มาดื่มกิน กินเสร็จเกิดหน้ามืดตาลาย เห็นกงจักรเป็นดอกจิก นายแกละ (เคยไว้ผมแกละ) ได้สารภาพรักกับนาง (ลูกเศรษฐี) ได้จูงมือแถมวิ่ง ไปพักอาศัยอยู่บ้านพ่อแม่ของตน เศรษฐีรู้เข้า โกรธมาก ได้ตามหาพร้อมลูกน้อง ตามไปเจอที่บ้านนายแกละ และฉุดตัวลูกสาวกลับ จะเอาเรื่องกับนายแกละให้ถึงที่สุด ความโมโหได้เอาปืนยาวฟาดเอา คอหมาปืนหักเลย และรับตัวลูกสาวกลับบ้าน บังเอิญนายอำเภอมาตรวจท้องที่ เศรษฐีเลยแจ้งความ นายอำเภอได้สอบปากคำ ได้ถามนายแกละว่า เอ็งฉุดลูกสาวเขามาใช่หรือไม่ นายแกละตอบว่าเปล่า เราเต็มใจหนีตามกันมา เพราะฐานะของผมยากจนมาก นายอำเภอได้ถามลูกสาวเศรษฐีว่าเอ็งเต็มใจหนีตามเขามา หรือว่าเขาฉุดเอ็งมา ลูกสาวเศรษฐีตอบว่าเต็มใจหนีตามเขามา เศรษฐีโมโหมาก ได้ยกลูกสาวให้นายแกละฟรี ๆ เลย แต่ให้ไปอยู่บ้านนายแกละ เมื่อลูกสาวเศรษฐีไม่อยู่เศรษฐีก็อดคิดถึงลูกไม่ได้ เวลากินข้าว ก็คิดถึงลูก กลัวลูกจะอด กลางคืนก็นอนไม่หลับ เลยให้คนไปรับตัวลูกสาวกับลูกเขย มาอยู่บ้านเหมือนเดิม

นายแกละก็เข้าหน้าพ่อตาไม่ได้ เลยนำพระปรกโพธิ์ 9 ใบ เอาไปทำน้ำมนต์ที่โอ่งน้ำดื่ม (น้ำฝน) ทุกโอ่ง ใครได้กินน้ำมนต์นี้จะได้เมตตาตน อยู่ต่อมาเศรษฐี ก็รักเขยคนนี้ โดยไม่รู้ตัว เจ้าของเรื่องผู้เล่า ไม่ขอเอ่ยชื่อ เขาเขียนแกมบันทึก มาให้อ่าน เรื่องมันก็นานมากแล้ว เดี๋ยวจะหาว่า ผู้เขียนเอาเท็จมาเล่า เดิมบ้านแค มีคนจีน มาจากเมืองจีน เขาขยัน หลายคนสามารถทำโรงสีได้ แต่ก๋งชวดของตระกูลนี้ มาจากเมืองจีน ไว้ผมเปียยาวถึงเอว ได้จับจองที่นา ในนามเย มีมากเป็น 1,000 ไร่ คนช่วยทำนาตก 20 คน เขาเป็นพ่อของพ่อโยมยอด เดชมา โยมยอดมีลูกคนเก่ง คือ คุณหมอเฉลียว เดชมา นายแกละ (เดิมไว้แกละ) เป็นเขยที่เคยเลี้ยงไว้แต่เด็ก จนได้เสียกับลูกสาว ลูกสาวชื่อไต๋ มีลูกชายชื่อ มอส สรุปคือผมเข้าใจเอาเองเศรษฐี คือ คุณหมอเฉลียว (เดิมเป็นหมอโบราญ เหตุการณ์เปลี่ยนไปหมอไปเรียนแพทย์ตีนเปล่า คนเลยเรียกพี่เขาว่า หมอเฉลียว เดชมา เป็นมือขวาฆราวาสของหลวงพ่อ) หมอมีลูกสาว 7-8 คนเท่าท้าวสามล เป็นผู้นำรู้สึกว้าเหว่ พอดีมีคนปากหวานชื่อแป๊ะ ปากช่อง เรียกคุณหมอว่า พ่อ เขาเป็นคนใจถึง มือถึง เสนอชื่อมีดหมอคุณหมอ 4 หมื่น มีดหล่นมือเลย, เสนอให้ราคาตำรายันต์, ตำราสัก, หนังสือตำราหล่นมือเลย ส่วนนายแกละชื่อจริง ๆ ชื่อ นายที

เรื่องนี้ของ หมอเฉลียว เดชมา เป็นการทดลองวิชาของหลวงพ่อ ว่าพระปรกโพธิ์ 9 ใบนั้น จะมีอิทธิฤทธิ์ขนาดไหน พอจะเป็นที่พึ่ง ที่อาศัยแก่ศิษย์ได้หรือไม่ ได้ขนาดไหน วันหนึ่งคุณหมอเฉลียว เดชมา ต้องคดี และต้องไปศาล มาหาหลวงพ่อแต่เช้าพอสว่าง ได้มาขอยืมสตางค์หลวงพ่อ เพื่อเป็นค่ารถไปศาล จ.ชัยนาท แต่พอไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อกลับพูดว่า ที่ตัวกูไม่มีสักบาทเดียว มึงเอาพระปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ไป แล้วท่านก็หยิบพระปรกโพธิ์ที่เลี่ยมพลาสติกเสร็จแล้ว ร้อยสายร่ม เอาไว้ให้หมอเฉลียว หมอเฉลียวหงุดหงิดมาก เดินออกมาถนนใหญ่เจอน้องสาว (คุณน้าสมนึก ภู่งาม) น้องได้ถามว่า พี่จะไปไหน คุณหมอตอบว่าจะไปศาล คุณสมนึก ถามว่า มีสตางค์หรือเปล่า คุณหมอตอบไม่มีสักบาท (เล่นการพันแทบทุกอย่าง) ป้าสมนึกเลยหยิบสตางค์ ค่ารถให้ไป พอดีมีมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านมารู้จักกัน เขาหยุดถามเลยขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปตลาดสรรค์ฟรี ๆ พอขึ้นรถบัส กระเป๋าสตางค์ก็ไม่มาเก็บเงินคือข้ามไป หรือหมอหลับก็ไม่รู้ เมื่อไปที่ศาล คุณหมอเห็นจ่าศาล เรียกโจทย์และจำเลยมาไกล่เกลี่ย โดยแยกกัน หมอเห็นไว ๆ ว่า มีการรับซองขาวกัน พอไกล่เกลี่ยเสร็จ จ่าศาลบอกให้คุณหมอกลับไปได้เลย หมอเดินออกมาไม่ไกล จ่าศาลได้มาหยุดจักรยาน พูดคุยกับคุณหมอ ได้ถามว่าลื้อเด็กใคร หมอไม่พูด แต่จ่าพูดว่า ลื้อรู้เห็นใช่ไหม เรื่องเลื่อนไม่ตัดสิน หมอก็ไม่พูด จ่าศาลเลยควักสตางค์ยัดให้มา ประมาณ 7,000 บาท (เจ็ดพัน) เป็นเงินมากในสมัยนั้น หมอก็งง

นับว่าอิทธิฤทธิ์ของพระปรกโพธิ์ 9 ใบนี้มีมากได้ไปเล่าเรื่องให้หลวงพ่อฟัง พระองค์นั้น แตกลานเป็นจิ๊กซอลเลย ท่านพูดว่าพระของกูอีกหน่อยจะหายาก แทบพลิกแผ่นดินหาแตก ๆ หัก ๆ ก็จะขอแบ่งกันเป็นชิ้น ๆ คุณหมอเห็นว่า ผมมาพัฒนาวัดของหลวงพ่อ คุณหมอได้ให้ผมมา แต่ไม่ได้เล่าประสบการณ์ ผู้เขียนให้เขาไปเฉย ๆ เลย มาบอกทีหลัง ผมละซึมไปเลย คุณหมอเคยให้พระพิมพ์โบราณ กับผู้เขียนไว้ 1 องค์ ถอดจากแม่พิมพ์ของขอม (ตรีกาย) ใหญ่ขนาดฝ่ามือ หลวงพ่อทำไว้ 1-2 องค์ ให้หมอเฉลียวมาใช้ 1 องค์ ไปตามควายกัน หมอมาดักที่กลางทาง นอนสูบบุหรี่อยู่ ผู้ใหญ่แถมคิดว่าเป็นคนร้าย ได้ยิงคุณหมอ 1 ทีไม่ออก หมอให้ผมมา ผมให้คุณศิริชัย ธีรวณิชยกุล ไป พระโตขนาดฝ่ามือ อีกองค์ อาจารย์ตี๋ให้มา เหลือองค์สุดท้าย งานไหว้ครู ท่านเอาพระหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัวมาแจก หลวงพ่อขอมให้มา 2 ไห คนขาดความเกรงใจ ทดลองยิงต่อหน้าเลย ยิงที่ต้นสะเดาหน้าวัด คนลองยิงอยู่มา 3 วันก็ตาย ขับรถมอเตอร์ไซค์ชนเสาไฟตาย ผมไปขอ อ.ตี๋ ให้มา องค์สุดท้ายของไหแรก (ไหที่ 2 ฝังไว้บนยอดเขาเขียว) พระโตขนาดฝ่ามือ เนื้อดินหนัก มีคนมาขอเลยให้เขาไปเฉย ๆ

BRIDGESTONE ลด 15% ที่ YELLOWTIRE.COM

เราคัดสรร พระเด่น พระดี ระดับคุณภาพ มากกว่า 100,00 รายการมารวมไว้ ที่นี่!!

พระเครื่องในร้าน
พระเครื่องที่คล้ายกัน

แม็กกาซีนพระ เรารวมสาระความรู้ และ บทความเกี่ยวกับพระที่น่าสนใจ