พระสมเด็จทอง (หัวเตียง) หลวงพ่อชาญณรงค์ พระระดับตำนานของท่านอาจารย์อภิชิโต

ประวัติความเป็นมาของพระสมเด็จทองและสมเด็จชมพู เป็นพระสมเด็จยุคต้นที่ท่านอาจารย์สร้างในช่วงที่อำนาจจิตและกำลังวังชาของท่านเต็มเปี่ยม พระนี้วางอยู่ในพานบน หัวเตียง ของหลวงพ่อ ที่ #บ้านไร่ เขาใหญ่ สถานที่สำคัญที่สุด หนึ่งในสามแห่งของท่านอาจารย์ ใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ถ่ายทอดวิชา ฝึกจิตภาวนา มีแผ่นสื่อในดงจมไว้ในแอ่งน้ำ สำหรับ "ลงกระหม่อมใต้น้ำ"ให้ลูกศิษย์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย สมัยหลวงพ่อท่านยังมีชีวิตอยู่ มีแปลงปลูกว่านอาถรรพ์ในดงหลายชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมมวลสารสร้างพระสมเด็จแดงอันลือลั่น ข้าวของเครื่องใช้ภาพวาดรูปถ่ายของหลวงพ่อ ทุกอย่างภายในบ้านยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเหมือนเดิม โดยตระกูลของลูกศิษย์เอกคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาจนถึงปัจจุบัน
•
#พระชุดหัวเตียง ที่ถูกเก็บรักษาสืบทอดมา เฉพาะเนื้อพิเศษนี้ มีจำนวนทั้งหมด 14 องค์
•
4 องค์ เป็นพระผิวสีออกเหลืองทอง มีคราบใขสีขาวมวลสารเข้มข้น ทุกองค์จะมีรอยแตกลานที่ผิวภายนอก ส่องดูจะพบมวลสารพระสมเด็จเป็นจำนวนมากแทรกอยู่ในเนื้อพระทั้งองค์ บางชิ้นมีขนาดใหญ่มาก ลูกศิษย์ท่านเล่าให้ฟังว่า เป็นพระที่ลพ.ท่านทำของท่านเองคนเดียว ไม่มีใครรู้ว่าท่านใส่อะไรลงไปบ้าง รู้แต่ว่ามวลสารวิเศษจัดเต็มเยอะมากที่สุด มีพระสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จบางขุนพรหม ตลอดจนผงศักดิ์สิทธิ์ของครูบาอาจารย์และของวิเศษอาถรรพ์ในดง ด้วยความที่ใส่มวลสารจำนวนมากแบบไม่ยั้ง ทำให้เมื่อกดพระไปแล้ว เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าที่ควร อีกทั้งท่านยังเสกอัดพลังแรงจนพระลั่น เป็นพระสมเด็จที่อานุภาพแรงมากทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ พระชุดนี้เรียกชื่อตามตำแหน่งที่ถูกพบว่า #พระสมเด็จหัวเตียง; ผู้เขียนได้มีโอกาศเห็นพระสมเด็จของหลวงพ่อชาญณรงค์ทั้งหมด ที่มีชื่อเรียกแยกแยะรุ่นตามสีของเนื้อพระทั้งสิ้น มี #สมเด็จแดง #สมเด็จเขียว #สมเด็จดำ #สมเด็จขาว (โภคทรัพย์) #สมเด็จน้ำตาล #สมเด็จชมพู และได้ถ่ายภาพเทียบเคียงกันทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่าพระสมเด็จหัวเตียงนั้น จะมีสีทองสวยงามมาก เมื่อวางเทียบพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ทุกเนื้อ จะยิ่งเห็นว่าเป็นสีทองชัดเจน หากเรียกชื่อตามสีของเนื้อพระ จึงควรจะเรียกว่าพระสมเด็จทองมากกว่าเรียกรวมๆไปกับพระสมเด็จชมพู หรือเรียกว่าพระสมเด็จหัวเตียงตามตำแหน่งที่พบดังเช่นในอดีต

•10 องค์ เป็นพิมพ์ใหญ่ 8 องค์ พิมพ์คะแนน 2 องค์ พระชุดหลังนี้ ลพ.ได้นำมวลสารที่เหลือจากการกดพระชุดแรก (พระสมเด็จทอง) มากดใหม่ ผสมเข้ากับว่านในดงและมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกหลายชนิด เพื่อให้ได้เนื้อที่แน่นเกาะตัวยิ่งขึ้น พิมพ์พระจะค่อนข้างตื้น มีสีออกชมพู #เนื้อกระยาสารท เป็นเอกลักษณ์ทั้งด้านหน้าและหลัง เจ้าของพระชุดนี้และคนที่เคยเห็น ส่ององค์จริงมาแล้ว จะจดจำเนื้อหามวลสารที่ดุดันเข้มข้นจัดจ้านแบบนี้ได้ขึ้นใจทันที หากเป็นเนื้อแบบอื่นที่มีความละเอียดหรือเป็นเนื้อแบบพระสมเด็จขาว แต่สีอมแดงอมชมพูย่อมไม่ใช่ ปัจจุบันพระชุดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ #พระสมเด็จชมพู
•
พระทั้งหมดถูกวางเรียงไว้ที่พานหัวเตียงของลพ.มายาวนานตลอดชีวิตของท่าน โดยที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ท่านอาจารย์จะมอบให้เฉพาะบุคคลสำคัญที่ท่านเจาะจงมอบให้เท่านั้น พระชุดนี้หาชมได้ยากยิ่ง มีจำนวนน้อยกว่าพระสมเด็จแดงที่มีราคาหลักล้านในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระสมเด็จทองที่มีจำนวนเพียง 4 องค์เท่านั้น
•
พระสมเด็จทอง #องค์ครู ที่ผู้เขียนได้รับมอบมา เป็นองค์ที่สืบทอดและรักษาเป็นมรดกมาจากบ้านของลูกศิษย์ใกล้ชิดและทันหลวงพ่อ ปัจจุบัน(พ.ศ.2561) อายุใกล้ร้อยปีและยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อเคยลงวิชาติดตัวไว้ให้ นับว่าเป็นบุคคลสำคัญ มีที่มาและประวัติที่ชัดเจนที่สุด เป็นหนึ่งในพระสมเด็จสององค์สำคัญ (อีกองค์เป็นพระสมเด็จชมพู) ที่ไม่เคยส่งมอบออกสู่บุคคลภายนอกตระกูลมาก่อน เจ้าของคนสุดท้ายที่เป็นลูกหลานบูชามาเป็นเวลายาวนาน รักและหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครเข้าไปตื้อขอท่านให้ราคาแพงแสนแพงอย่างไรก็ไม่เคยใจอ่อน ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ต้องเป็นคนที่พระท่านเลือกและรองรับบารมีของท่านได้ ผู้รักษาพระองค์นี้อาราธนาท่านใช้สวดมนต์ภาวนาทำสมาธิอยู่เป็นประจำ เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังสูงยิ่งนัก
•
พระสมเด็จทอง #องค์ดารา พบเจออยู่นอกชุดพานหัวเตียง บ้านเขาใหญ่ เป็นของลูกศิษย์ลูกหลานในตระกูลแขวนบูชา นับว่าเป็น #องค์ที่5 ก็ว่าได้ ภายหลังมีการเปลี่ยนเจ้าของ จนมาปรากฏเป็นองค์ดาราอยู่ในหนังสือ #พระลึกลับกินตับ๒ ชุดเดียวกับพระสมเด็จชมพู (ในสมัยนั้นยังไม่มีการแยกแยะที่ชัดเจนระหว่างพระสมเด็จชมพูกับพระสมเด็จทอง แต่จะเรียกรวมๆกันว่าพระสมเด็จชมพูทั้งหมด)
•
พระสมเด็จทอง #องค์ตุ๊บตั๊บ เดิมทีเจ้าของที่เป็นคนในตระกูล แขวนบูชาเอง ต่อมามีคนมาขอทำการตกลงแลกเปลี่ยนพระเครื่องกัน จึงมีการเปลี่ยนมือออกสู่ภายนอก หลังจากนั้นได้มีการส่งประกวดในหมวดพระสมเด็จชมพู ได้ #รางวัลที่๓ งานสามพราน 2560 พระองค์นี้เจ้าของเดิมได้ทำการเคลือบผิวรักษาเนื้อพระเอาไว้ หากคนไม่เคยเห็นพระของหลวงพ่อทุกเนื้อมามากจนชำนาญ ดูพิมพ์และเนื้อไม่ขาด จะสับสนว่าเป็นรุ่นไหนกันแน่ สมัยนั้นตีเป็นพระสมเด็จชมพู พระสมเด็จขาว และพระสมเด็จฝังพระธาตุกัน โชคดีที่มีภาพถ่ายพระองค์นี้แบบดั้งเดิมก่อนเคลือบผิว ทำให้เห็นเนื้อหามวลสารอันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่มีเนื้อหาแบบนี้ในพระสมเด็จรุ่นอื่น เป็นเนื้อที่ถูกตรงกับพระสมเด็จทองทุกประการ พระองค์นี้มีความพิเศษประการหนึ่งคือ มีความหนาสองเท่าของพระสมเด็จทององค์อื่นๆ ซึ่งถือว่าหนาพิเศษมากๆ นับเป็นองค์ที่มีความน่าสนใจ ผู้เขียนจึงเช่าบูชามาเพื่อศึกษา เมื่อทำความสะอาดเคลือบออกแล้ว จึงจะเห็นเนื้อพระเดิม มวลสารของพระสมเด็จทองที่ลอยผุดขึ้นมา ทั้งเม็ดส้ม เม็ดขาว เม็ดแดง ที่เป็น signature ยากจะเลียนแบบ มีความแท้ที่ดูง่าย พระองค์นี้ไม่เหมือนองค์อื่นๆ หน้าตาผิวพรรณจะเหมือนพระสมเด็จลงกรุ แม้พิมพ์จะตื้นลงไปบ้าง แต่ก็มีเสน่ห์สวยงามเข้มขลังมาก
•
อีก 2 องค์ในวงการพระเครื่องสายหลักสายตรงของหลวงพ่อ มี อ.วิรัตน์ ท่าพระจันทร์ ได้ไปองค์หนึ่ง ต่อมามีเจ้าสัวมาขอเช่าบูชา และเก็บเป็นมรดกในวงศ์ตระกูล และมีอีกองค์นึงเปลี่ยนเจ้าของไปอยู่เมืองนอก ทั้งสององค์นี้ไม่มีการหมุนเวียนออกสู่วงการอีกเลย
•
พระสมเด็จทอง จัดเป็นจักรพรรดิพระสมเด็จของท่านอาจารย์อภิชิโต มีเนื้อหามวลสารเข้มข้นจัดจ้านชัดเจนถึงยุค พิมพ์ทรงถูกต้องตามแบบพระสมเด็จยุคต้นของท่าน แก่ผงพุทธคุณ ส่องเห็นมวลสาร #สมเด็จวัดระฆัง จำนวนมาก เนื้อในเป็นผงสีขาวแทรกด้วยเม็ดจุดสีส้มและชิ้นก้อนสีแดง และมวลสารวิเศษศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพระสมเด็จทอง ที่ใครได้ลงกล้องส่องแล้วจะไม่มีวันลืมเลือน
•
สำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นพระสมเด็จของหลวงพ่อชาญณรงค์มาทุกเนื้อทุกพิมพ์ อาจจะมีความสับสน ไม่สามารถแยกความแตกต่างของพระแต่ละพิมพ์ เนื้อแต่ละยุคได้ พระสมเด็จทองนั้น มีความแตกต่างจากเนื้อกระยาสารท #สมเด็จชมพู มวลสารไม่เหมือน #พระสมเด็จโภคทรัพย์ เนื้อและพิมพ์ต่างจาก #พระสมเด็จน้ำตาล รวมถึง #พระสมเด็จ29 (คนละพิมพ์กันเลย) หากมีความชำนาญและได้เคยเห็นองค์จริงมามากพอแล้ว จะสามารถแยกแยะได้ชัดเจน
•
พระสมเด็จทองนับเป็นพระชุดสำคัญ เป็นพระระดับตำนานสะท้านไตรภพอย่างแท้จริง มีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังมาก ผู้ที่มีวาสนาบารมีสัมพันธ์กับครูบาอาจารย์ในดงและท่านอาจารย์อภิชิโต เป็นผู้ที่พระท่านเลือกแล้ว จึงจะได้ครอบครองสืบทอดมรดกอันล้ำค่านี้ต่อไป
•
บทความโดย #นะพุทธคุณ